จีอาได้สติกลับมาเป็นตัวเอง จึงขอให้อียอนรีบลงมือและบอกว่าเธอต้องการอยู่เคียงข้างเขา อียอนจึงบอกว่าเขาจะจบการต่อสู้ที่น่าเหนื่อยหน่ายนี้เสียที ในขณะที่ยูริไม่เข้าใจหตุผลที่เทอร์รี่ปล่อยโรคประหลาด เขาจึงบอกว่าต้องการให้อียอนตาย เพราะอียอนไม่ยอมหยุดต่อสู้กับเขา และตอนนี้พวกเขาก็ล้ำเส้นกันมาทั้งคู่แล้ว

หากในวันนั้นจีอาตกเป็นเครื่องสังเวยในบ่อน้ำที่เกาะแห่งนั้น เทอร์รี่และวิญญาณอีมูกีในร่างของเธอ ก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียว และเหตุผลที่อีมูกีเลือกร่างของอียอนก็เพราะต้องการแก้แค้น ที่ไม่ได้เป็นวิญญาณแห่งขุนเขา อีมูกีในร่างของจีอาตอนนี้ ให้อียอนเลือกระหว่างช่วยชีวิตเธอหรือตัวเอง แต่อียอนไม่เลือกทั้งสองอย่าง ระหว่างการต่อสู้ อียอนรู้ว่าอีมูกีตัวนี้อ่อนแอลงเมื่อสิงร่างของจีอา เพราะพลังส่วนใหญ่อยู่ในร่างขอ

จีพยองบอกทุกคนว่ามันคือการแอคไฮร์และหลังจากการเซ็นสัญญาจบลง ซัมซานเทคจะสลายไปทันที ดัลมีสอนวิธีการใช้วิดีโอคอลให้คุณย่า เพราะคิดว่าจะได้ไปทำงานที่ซานฟรานซิสโก ดัลมีสังเกตว่าตัวหนังสือที่สลากยาของคุณย่ามีขนาดเล็กมาก และยาก็มีลักษณะคล้ายกัน จนทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสน เธอจึงโทรปรึกษาโดซานเพื่อคิดที่จะพัฒนานุนกิลให้สามารถแยกแยะยาได้ ดัลมีได้บันทึกเสียงการคุยของโดซานเอาไว้ต่อจากนั้น ก่อนที่เธอจะหลับ

พี่น้องฝาแฝดซึ่งเป็นวิศวกรของอินแจคอมปะนี แอบไปเลียบเคียงถามอเล็กซ์ เพราะพวกเขาต้องการไปทำงานกับทูสโท แม้ว่าต้องทิ้งทีมของพวกเขาเองก็ตาม แต่อเล็กซ์ยังไม่ได้ตัดสินใจ เมื่อนัมโดซานเปลี่ยนใจรับข้อเสนอของอเล็กซ์ โดยมีเงื่อนไขว่า ทูสโทจะต้องซื้อกิจการของซัมซานเทค และให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ไปทำงานด้วยกัน และยอมให้พวกเขาได้ทำพัฒนานุนกิลต่อไป แต่อเล็กซ์ขอดูผลงานการเดโมก่อน และบอกว่าเขายังมีตัวเลือกอื่นอีก

จีพยองบอกกับตัวเองว่า สักวันดัลมีคงจะเข้าใจและหันมามองเขาบ้าง ก่อนที่จะเล่าความจริงทุกอย่างให้เธอฟัง เมื่อเพื่อนๆ ของโดซานรู้เรื่องนี้แล้ว ทุกคนต่างก็เป็นกังวลว่า โดซานและดัลมีจะร่วมกันทำงานต่อไปได้อย่างไร โดซานสารภาพผิดและขอโทษดัลมี เขาเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาตลอด เพราะอยากเป็นคนคนนั้นสำหรับเธอจริงๆ แต่เธอรู้สึกโดนหลอกมาตลอดและบอกว่าอยากให้เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องไม่จริง จีพยองโทรถามคุณย่าด้วยความเ

โดซานรู้ตัวดีมาตลอดว่า ในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิคครั้งนั้น คำตอบในโจทย์ข้อสุดท้ายถึงเป้นโจทย์ที่เขานั้นเคยทำและเห็นอยู่บ่อยแต่วันนั้นเขากลับเขียนมันออกมาไม่ได้ จนกระทั่งเห็นกระดาษคำตอบของคนอื่นที่ร่วงหล่นลงมากับสายลม

จีอาสวมกอดพ่อแม่ด้วยความดีใจ พวกเขาจำไม่ได้ว่าไปอยู่ที่ไหนมา และรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่น แต่ก่อนหน้านั้นมีชายผิวขาวมาขอให้เขียนบางอย่างลงบนดอกคาร์เนชั่นกระดาษของลูก โดยบอกว่าจะได้พบลูกอีก จีอาจึงรู้ว่าชายผู้นั้นก็คืออียอนนั่นเอง เธอบอกพ่อกับแม่ว่า อียอนคือแฟนของเธอ ก่อนนอนในคืนนั้น เธอวิดีโอคอลหาเขาเพื่อขอบคุณที่ช่วยตามหาพ่อแม่ของเธอกลับมา อียอนดีใจที่เห็นเธอมีความสุขเช่นวันนี้ และสัญญาว่าจะทำให้เ

อียอนพบว่าดาบของเขาไม่สามารถฆ่าอีมูกิได้ เพราะตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในคราบของมนุษย์ ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งอีมูกียื่นข้อเสนอขอร่างของอียอน เพื่อแลกกับ อีรัง นัมจีอา และพ่อแม่ของเธอ ในขณะที่กบฏซอกยองก็ขอให้จีอาพาอียอนมาแลกกับพ่อแม่ของเธอเช่นกัน

แดยองผิดหวังและเสียใจที่ไม่อาจกลับไปเป็นคนเดิมได้ จนกระทั่งเช้าวันต่อมาเขาได้พบดาจอง เธอโทษตัวเองที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องพังอีกครั้ง และควรแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเขาคือฮงแดยอง เพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตเป็นโกอูยองต่อไป แต่แดยองไม่ให้เธอโทษตัวเองเพราะเขารู้สึกขอบคุณเธอด้วยซ้ำ ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่สำคัญสำหรับเขามากที่สุดไม่ใช่การเล่นบาสแต่คือครอบครัวและลูกๆ ดาจองได้แต่ก้มหน้าร้องไห้และฟังเขาพู


หลังจากที่ดาจองยอมรับความจริงแล้วว่าโกอูยองคือฮงแดยอง เธอบอกกับเขาว่าระหว่างเธอและเยจีฮุนไม่ได้เป็นแฟนกันอย่างที่เขาคิด จากนั้นพวกเขาก็ไปเที่ยวเล่นด้วยกัน และดาจองกลับบ้านในตอนเช้า

ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ยงซานขออยู่แบ็คอัพงานก่อน จองซาฮาเอ่ยปากว่าทำไมเขาถึงแบ็คอัพบ่อยๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อมูลอะไรให้แฮกเกอร์สามารถขโมยไปได้ เธอคิดว่าอะไรก็อาจเปลี่ยนไปได้ จากความสัมพันธ์ที่เคยรักกันมาก วันหนึ่งเขาอาจจะเปลี่ยนหน้ากากและกลายเป็นศัตรูก็ได้ แต่นัมโดซานคิดว่าไม่มีอะไรสามารถควบคุมได้ จึงจำเป็นต้องมีการแบ็คอัพอยู่เสมอ

จีพยองไม่ต้องการให้โดซานบอกความจริงกับดัลมี เขาจึงรีบตามไปที่บ้าน ระหว่างที่คุณย่าต้องการคุยกับโดซานเป็นการส่วนตัว จึงใช้ดัลมีออกไปซื้อกับข้าว คุณย่าบอกโดซานว่าสายตาของท่านไม่ค่อยดี แม้ว่าตอนนี้ยังมองเห็นชัดอยู่ แต่มันจะค่อยๆแย่ลงอย่างช้าๆ ท่านจึงขอร้องโดซานให้ปิดเป็นความลับห้ามบอกดัลมีหรือจีพยองอย่างเด็ดขาด โดซานฟังด้วยความสงสารและรับปากคุณย่า เขาเพิ่งรู้ว่าคุณย่าคือผู้มีพระคุณที่จีพยองเคยพูดถ