ชื่อเรื่องย่อหลัก

ก่อนที่แฮอีจะหายตัวไปในคืนนั้น เธอพบหัวหน้าจีที่หน้าบ้านและกำลังเล็งปืนลูกเหล็กไปที่แฮงซอน แฮอีตกใจและวิ่งหนี แต่ทว่าเธอถูกหัวหน้าจีลักพาตัวไปขังไว้ที่ห้องของเขา เมื่อเธอตื่นมาจึงใช้ปากกาบนโต๊ะตัดเชือกที่มัดไว้และเห็นรูปภาพของชียอลกับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องติดอยู่เต็มผนังห้อง เธอจึงวิ่งหนีออกมาและโดนรถชนจนหมดสติ หัวหน้าจีวิ่งตามมาและใช้โทรศัพท์ของเธอส่งข้อความสั่งเสียถึงแฮงซอนก่อนที่จะโยนโทรศัพท์ไว้ แฮอีได้รับบาดเจ็บและอาการโคม่าเพราะภาวะสมองบวมซึ่งยังไม่รู้ว่าเธอจะฟื้นเมื่อไร ซอนแจได้ยินเจ้าหน้าที่ตำรวจคุยกับแฮงซอนเกี่ยวกับข้อความสั่งเสียในโทรศัพท์ของแฮอีและคิดว่าเธอจงใจวิ่งตัดหน้ารถเพื่อฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องการเรียน แฮงซอนไม่เชื่อว่าแฮอีจะคิดสั้นแบบนั้น

ซอนแจบอกกับแม่ทั้งน้ำตาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับแฮอีเป็นเพราะเขากับแม่ เขาจึงอยากให้แม่ไปบอกทางโรงเรียนเรื่องข้อสอบรั่วและยอมรับโทษทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่กล้าสู้หน้าแฮอีเมื่อเธอฟื้นขึ้นมา แต่แม่ของเขากลับบอกให้อดทนเพราะอีกไม่นานก็จะได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ซอนแจไม่สนใจเรื่องมหาวิทยาลัยหรือหน้าที่การงานที่ดีอย่างที่แม่บอก เพราะนั่นไม่ใช่ความสุขของเขาแต่เป็นความสุขและความต้องการของแม่

หัวหน้าจียังคงทำตัวตามปกติและเสแสร้งห่วงใยแฮอี ชียอลขอให้หัวหน้าจีเลื่อนโครงการแคมป์คณิตศาสตร์และตารางสอนทั้งหมดในช่วงนี้ออกไปก่อน แต่หัวหน้าจีไม่บอกผอ.คังและจัดการทุกอย่างเอง

พฤติกรรมของซูอาเปลี่ยนไปและก้าวร้าวมากขึ้นซึ่งเกิดจากความเครียดเรื่องการสอบเข้าจนเกิดภาวะผิดปกติในการควบคุมอารมณ์ ถ้าหากมีอาการหนักก็จะเห็นภาพหลอนและหูฝาด ซอนแจยังคงเครียดเรื่องแฮอีและโทษตัวเอง เขาจึงเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าของโรงเรียนเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ซอกอนฮูมาห้ามไว้ทันและพูดเตือนสติไม่ให้วิ่งหนีปัญหาแต่ต้องหาวิธีแก้ไข ซอนแจจึงไปพบครูจงรยอลและเล่าความจริง

แฮงซอนรู้สึกแปลกทั้งเรื่องข้อความสั่งเสียของแฮอีที่ไม่ใช่สำนวนที่เธอใช้เป็นประจำ เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดในย่านอื่นและสีบนฝ่ามือที่เช็ดไม่ออก ชียอลเพิ่งรู้ว่าโครงการแคมป์คณิตศาสตร์และคลาสการสอนของเขาไม่ได้ถูกเลื่อนเวลาตามที่เขาสั่งหัวหน้าจีไว้ พวกเขาจึงมีปากเสียงกัน แต่หัวหน้าจีอ้างว่าทำไปเพราะความหวังดีและอยากให้ชียอลแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวเพราะนัมแฮงซอนก็ไม่ได้มีดีอะไรและแฮอีก็ยังไม่ตาย คำพูดของหัวหน้าจีทำให้ชียอลรู้สึกได้ว่ามีอีกหลายสิ่งเกี่ยวกับหัวหน้าจีที่เขายังไม่รู้ จากนั้นเขาจึงขอตัดความสัมพันธ์และไล่หัวหน้าจีออกจากงาน

ชียอลถูกเรียกไปสอบปากคำเกี่ยวกับคดีครูจินและทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับลูกเหล็กเพราะเขาคือจุดร่วมของคดีเหล่านี้ แต่ชียอลมีพยานหลักฐานที่อยู่ทุกครั้งและข้อนิ้วชี้ขวาก็ไม่มีหนังด้านตามที่พยานบอกไว้ ซึ่งเกิดจากการเหนี่ยวหนังยางของปืนยิงลูกเหล็กซ้ำๆ ชียอลไม่รู้จักคนชื่อจองซองฮยอนแต่ะสะดุดหูเมื่อตำรวจถามถึงจองซูฮยอน

จองซูฮยอนคือลูกศิษย์ของชียอลเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ฆ่าตัวตายหลังจากมีปากเสียงกับแม่เรื่องการเรียน จองซองฮยอน(หัวหน้าจี)คือน้องชายของเธอและได้รับรู้จากไดอารีว่าชียอลคือครูและผู้ใหญ่คนเดียวที่เธอนับถือและเชื่อใจ ต่อมาจองซองฮยอนผลักแม่ตัวเองจากระเบียงจนตกลงมาเสียชีวิต แต่เขาพ้นผิดเพราะไม่มีหลักฐานอีกทั้งตำรวจสรุปว่าแม่อาจจะฆ่าตัวตายตามลูกสาว สามปีต่อมาจองซองฮยอนได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นจีดงฮีและเข้าหาชียอลด้วยความเชื่อใจเช่นเดียวกับพี่สาวของเขา ชียอลรับหัวหน้าจีมาทำงานด้วยตลอดหกปีโดยไม่รู้ว่าเขาคือน้องชายของซูฮยอน

หลังจากที่หัวหน้าจีโดนไล่ออกจากงาน เขาเสียใจหนักมากเพราะคิดว่าชียอลกำลังทอดทิ้งและลืมพี่สาวของเขาแล้ว ทั้งที่เขาอยากจะปกป้องชียอลตลอดไป ชียอลเฉลียวใจเมื่อเห็นสีน้ำหมึกในเอกสารการสอนที่หัวหน้าจีจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งตรงกับสีที่ติดบนฝ่ามือของแฮอี

นัมแฮงจา(แม่ของแฮอี) เดินทางกลับจากญี่ปุ่นและไปเยี่ยมแฮอีที่โรงพยาบาล สายสืบซงไปสืบคดีที่บ้านเก่าของจองซองฮยอนซึ่งลุงยามบอกว่าจองซองฮยอนชอบเล่นลูกเหล็กมาตั้งแต่เด็ก
ซอนแจเล่าความจริงทังหมดกับครูจงรยอล จางซอจิน(แม่ของซอนแจ)ถูกเชิญมาที่โรงเรียนเพื่อให้คณะกรรมการสอบสวน ซอนแจโทรหาพ่อเพื่อให้ช่วยแม่

หัวหน้าจีไปหาชียอลที่บ้านเพื่อขอโทษและขอโอกาสทำงานอีกครั้ง ชียอลขอจับมือกับหัวหน้าจีเพื่อพิสูจน์ความจริงบางอย่างและรู้สึกถึงหนังด้านที่ข้อนิ้วชี้ของเขา จากนั้นเขาก็สะกดรอยตามหัวหน้าจีไปซึ่งเป็นเพียงห้องเช่าเล็กๆ บนดาดฟ้า