> ศูนย์อุบัติเหตุสร้างขึ้นมาโดยเจตนารมณ์ของอาจารย์คิม ผอ.พัคลำบากใจกับข้อเสนอของอาจารย์ชาจินมันที่จะให้ไล่อาจารย์คิมออกก่อนที่ตนเองจะเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ฯ แต่อาจารย์คิมเป็นผู้ตัดสินใจให้อาจารย์ชาจินมันมาเริ่มงานในสัปดาห์หน้า
> โจซองยุนนักกีฬาสกีทีมชาติอายุ 26 ปี บาดเจ็บขณะฝึกซ้อม หลังจากที่หมอซออูจินตรวจเช็คร่างกายและไม่พบสิ่งผิดปกติ เขาจึงฟันธงว่าโจซองยุนแกล้งป่วย ถึงแม้โจซองยุนจะบ่นว่าเจ็บในช่องท้องก็ตาม หมอซออูจินเข้มงวดกับหมอจางดงฮวามากขึ้นจนแทบไม่มีเวลาพัก หัวหน้าพยาบาลโอเริ่มเป็นกังวลและขอให้อาจารย์คิมเป็นผู้ไกล่เกลี่ย แต่อาจารย์คิมอยากปล่อยให้ทั้งสองคนประจันหน้ากันและค่อยๆผูกพันกันไปเอง
> อาจารย์ชาจินมันมาที่ศูนย์อุบัติเหตุล่วงหน้า และนำรายชื่อศัลยแพทย์ที่เขาเลือกเองมาเสนอ ผอ.พัค แต่อาจารย์คิมไม่เห็นด้วยเพราะศัลยแพทย์ทุกคนที่ทลดัมล้วนแต่มีฝีมือ ทั้งคู่มีทัศนคติที่ต่างกันและไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว พวกเขาจึงมีเรื่องโต้แย้งกันทุกครั้งเมื่อเผชิญหน้า อาจารย์คิมจึงคิดว่าอาจารย์ชาจินมันต้องการเขี่ยศัลยแพทย์ทลดัมทิ้งเพราะเขาเป็นต้นเหตุ
> ชาวทลดัมไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าอาจารย์คิมเป็นคนตัดสินใจให้อาจารย์ชาจินมันมารับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ แต่อาจารย์คิมขอให้พวกเขาทำหน้าที่ของตนเองต่อไปอย่างดีที่สุด และขอให้ยอมรับการตัดสินใจของเขาอย่างไม่มีอคติ เพราะต่อไปในอนาคตจะมีผู้ป่วยอุบัติเหตุมากขึ้นซึ่งต้องการบุคลากรฝีมือดี แต่หมอซออูจินจะไม่ทำงานที่ทลดัมอีกต่อไปถ้าหากว่าไม่มีอาจารย์คิม
> อาจารย์ชาจินมันอยู่ห้องทำงานเดียวกับชาอึนแจลูกสาวของเขาและหมออีซอนอุง ซึ่งเป็นหมอทหารบนเรือที่มารับตำแหน่งแพทย์ผู้ช่วยศัลยกรรมทรวงอก หมอซออูจินจะย้ายมานอนค้างที่โรงพยาบาล เพราะชาอึนแจบอกว่าพ่อของเธอจะไปอยู่ด้วยชั่วคราวจนกว่าจะหาที่อยู่ได้ ถึงแม้ชาอึนแจจะพยายาซ่อนสิ่งของของหมอซอในบ้านไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของพ่อ
> นักกีฬาโจซองยุนกลับมาที่ทลดัมอีกครั้งในตอนค่ำด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส หมอซอผ่าตัดม้ามและเข้าเฝือกกระดูกให้ชั่วคราวก่อนจะย้ายไปรับการผ่าตัดใหญ่ แต่อาจารย์คิมจะต้องตัดสินใจระหว่างการผ่าตัดเส้นประสาทกับหลอดเลือดแดง ที่มีความสำคัญพอๆ กัน ซึ่งจะรักษาชีวิตของนักกีฬาของโจซอลยุนและสามารถเล่นกีฬาต่อไปได้ อาจารย์คิมเลือกที่จะผ่าตัดเส้นประสาทก่อน ขณะที่อาจารย์ชาจินมันเห็นว่าการผ่าตัดหลอดเลือดแดงสำคัญกว่า เมื่ออาจารย์ชาจินมันไม่เห็นด้วยที่ลูกสาวจะเข้าร่วมการผ่าตัดอย่างบุ่มบ่ามในครั้งนี้ ชาอึนแจจึงบอกกับพ่อว่าอาจารย์คิมตัดสินใจอย่างนั้น เพราะเขามองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นและผ่านเคสอุบัติเหตุมาเยอะ หมอซออูจินสมทบว่าบทเรียนแรกที่อาจารย์คิมสอนไว้คือลูกบ้าที่บางระดับปัญญาก็ไปไม่ถึง ซึ่งวิธีการนี้เรียกว่าความโรแมนติกที่สามารถช่วยชีวิตคนไว้ได้มาโดยตลอด
