ตอนที่ 5 (9-10)
หลังจากที่ทางดรีมส์ได้เดินทางไปเพื่อเจรจาและซื้อตัวไมล์ส
ทางดรีมส์ต่างกังวลเพราะรู้สึกไม่ไว้ใจนายหน้าฝั่งของไมล์ส และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
เมื่อนายหน้าแจ้งว่าค่าตัวของไมล์สเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในชั่วข้ามคืน
และถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นเขาก็จะไม่ยอมขายไมล์ส
ระหว่างที่ทางดรีมส์กำลังนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารแห่งจึง
โอซาฮุน ผู้จัดการทั่วไปของเพลิแคนก็เข้ามาหาพวกเขา และเขาก็คือคนที่จะซื้อตัวไมลส์
ผู้จัดการแบคขอคุยกับไมลส์อีกครั้งและบอกกับไมล์ส ว่าเงินที่จะให้ไมลส์สูงสุดได้นั้นอาจจะน้อยกว่าอีกคนที่เสนอมา
แต่ทั้งนี้เขาอยากให้ไมลส์ได้คิดถึงเรื่อง ลำดับการขว้างลูก
ไมลส์ยื่นเงื่อนไขให้ระบุในสัญญาว่าเขาจะต้องเป็นพิทเชอร์ที่เริ่มเกม
และเมื่อไมลส์ได้อยู่ในทีมเขานั้นรับรองว่าเงื่อนไขจะดีกว่าเพลิแคนแน่นอน
แต่ทางเพลิแคนเองเมื่อรู้เงื่อนไขของทางดรีมส์จึงเพิ่มเงื่อนไขเหมือนกับที่ดรีมส์เสนอให้กับไมลส์ด้วย
เซยองแนะนำผู้จัดการแบคว่าควรทาบทามกริฟฟินแต่ทว่าทางไวกิงส์ได้เตรียมซื้อตัวกริฟฟินไว้แล้ว
ผู้จัดการแบคสังเกตพฤติกรรมโรเบิร์ต ล่ามที่ช่วยติดต่อซื้อตัวไมลส์ซึ่งจริงๆแล้ว โรเบิร์ตก็คือ คิลชางจู
อดีต แชมป์พิทเชอร์เก้ารอบจากเมเจอร์ลีกที่ถูกปล่อยเทรดหลังการแข่งขัน เยาวชนระดับชาติรอบสุดท้ายในปี2008
เขาุคยอยู่ในทีมเยาวชนสองทีม ร่วม WBC สองครั้งเขาเข้ารับการผ่าตัดที่ข้อศอก
และปัจจุบันนี้เขาเป็นพลเมืองอเมริกันแล้ว
อีกทั้งเขายังมีเรื่องไม่ดีตอนอยู่เกาหลีก่อนจะย้ายมาอเมริกาด้วย
เขาถูกห้ามให้ลงเล่นที่เกาหลี และยังมีเรื่องที่เขาหนีทหาร คือเขายังไม่ได้เข้ากรมด้วย
และตอนนั้นเขายังมีปัญหาเรื่องที่ภรรยาของเขาป่วย
เธอมีเนื้องอกในหัวใจและต้องเข้ารับการปลูกถ่ายและคิวที่เกาหลียาวมาก
เขาจึงทิ้งภรรยาเพื่อเข้ากรมไม่ได้ เขาทนให้คนด่าทอเขาดีกว่า
ผู้จัดการแบคทาบทามโรเบิร์ตให้มาร่วมทีมในฐานะผู้เล่นต่างชาติ
และในที่สุดโรเบิร์ตก็ตัดสินใจกลับมาที่เกาหลี และทันทีที่มาถึงสนามบิน
นักข่าวต่างมารอทำข่าวกันอย่างมากมาย
ในงานแถลงข่าวเข้าร่วมกับดรีมส์ของโรเบิร์ต คิล อย่างเป็นทางการ
มีนักข่าวเข้าร่วมอย่างมากมาย และผู้จัดการแบคต่างตอบคำถามได้เป็นอย่างดี
และคำถามที่จี้จุดก็คือเรื่องเข้ากรม แล้วแบบนี้ผู้จัดการแบคจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
