ชื่อเรื่องย่อหลัก

เกิดเหตุฆาตกรรมป้าซุนบก (ฉายาป้าสปริง) ที่อยู่ข้างบ้านของมยองพิล โดยไม่มีคราบเลือดในที่เกิดเหตุหรือร่องรอยของคนร้าย ไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนยอมให้การเป็นพยาน เพราะป้าสปริงมีนิสัยโวยวายและชอบวิวาทกับคนอื่นอยู่เสมอ

อูซัมซุนเจ้าหน้าที่หญิงคนใหม่ซึ่งมาทำงานแทนอันนา คังโดฮาลาออกจากหน่วยอีโอดีและมารับตำแหน่งหัวหน้าแผนกนิติวิศวกรรม ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติตามคำชักชวนของหมอยุน
ผลการชันสูตรศพของป้าสปริง แพทย์พบรอยยุบรูปแปดเหลี่ยมที่หน้าผาก ภายในพบซี่โครงหักหลายชิ้น ปอดกับหัวใจและแก้วหูฉีกขาด 

โฮแกแฝงตัวเป็น รปภ.ที่วิลล่าเพื่อหาตัวคนร้าย เพื่อนบ้านหลายคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะเคยมีเรื่องวิวาทกับป้าสปริง หนูน้อยยูจองบอกโฮแกถึงพฤติกรรมของเพื่อนบ้านแต่ละคนในละแวกนั้น พัคยองซูตกเป็นผู้ต้องสงสัยลำดับต้นๆ เพราะเขาอยู่ห้องชั้นล่างของป้าสปริง และไม่พอใจที่เธอชอบทำเสียงดังกลางดึก ทำให้ลูกชายของเขาไม่มีสมาธิอ่านหนังสือสอบ

กวักซุนจาเจ้าของห้องเช่าที่ป้าสปริงอาศัยอยู่ เธอต้องการรื้อห้องทั้งหมดสำหรับผู้เช่ารายใหม่ คังโดฮาจึงนำอุปกรณ์ทุกอย่างในห้องครัวเพื่อนำมาพิสูจน์หลักฐาน ถึงแม้ว่าป้าสปริงจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็ยังมีเสียงดังในตอนกลางคืนที่รบกวนเพื่อนบ้าน

คังโดฮาและหมอยุนสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของป้าสปริง เพราะเกิดจากหม้ออัดแรงดันขณะทำอาหารมื้อเย็น ฝาจุกของหม้อกระเด็นอัดไปที่หน้าผากของป้า แรงดันจากการะเบิดทำให้อวัยวะภายในของป้าเสียหาย 

อูซัมซุนวิเคราะห์ที่มาของเสียงที่รบกวนเพื่อนบ้าน ซึ่งตามปกติแล้วเสียงจะอยู่ในห้องน้ำที่มีท่อเชื่อมต่อกันหมด จึงทำให้เสียงกระจายไปได้ง่าย ลำโพงเชคโบนสามารถทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนเข้ากระดูก จนทำให้ลูกชายของพัคยองซูเกือบสูญเสียการได้ยิน โฮแกและมยองพิลจึงเข้ารื้อค้นบ้านของป้าเก็บของเก่า และพบลำโพงน่าสงสัยที่คนร้ายนำมาทิ้งซึ่งเป็นของคิมยองจู ซงซอลหยุดพักงานหลังจากที่โดจินเสียชีวิต แม่ของเธอเชื่อว่าสักวันเธอจะกลับไปทำงานที่เธอรักอีกครั้ง