ชื่อเรื่องย่อหลัก

ชาจีวอนและแบคฮีซองรู้จักกันครั้งแรกตอนที่เขามาซื้อเบียร์ที่ร้านของเธอ และบอกว่าเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะเหมาะกับการเริ่มต้นใหม่และเงียบสงบดี

ก่อนทำอาหารเช้า แบคฮีซองฝึกหัดการยิ้มที่หน้ากระจกในห้องน้ำ เพื่อปกปิดแววตาและความรู้สึกที่โหดเหี้ยมของตัวเอง

หลังจากที่ชาจีวอนตื่นขึ้นมา เขาขอให้เธอไปอาบน้ำและเป่าผมให้อึนฮาเพื่อจะออกมากินอาหารเช้าด้วยกัน แต่อึนฮาไม่ยอมให้แม่เป่าผมให้ จึงเดินมาหาพ่อ และบอกว่าแม่ไปทำความสะอาดที่เวิร์กชอปของเขา ฮีซองจึงรีบวิ่งตามไป เพราะกลัวว่าเธอจะรู้ความลับที่เขาซ่อนนักข่าวคิมไว้ในห้องใต้ดิน จีวอนยังไม่ทันเดินไปถึงประตูห้องลับนั้น เพราะเธอสะดุดตาเศษแก้วชาที่แตกอยู่บนพื้น ฮีซองจึงแก้ตัวว่าเขาดื่มชากับเพื่อนเก่า และเผลอทำแตกเอง จากนั้นจึงรีบพาชีวอนกลับขึ้นมากินอาหารเช้า

หลังจากที่ชาจีวอนออกไปทำงานแล้ว แบคฮีซองจึงลงไปคุยกับคิมมูจินที่ห้องใต้ดิน และเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อสิบแปดปีก่อน ที่เขาเคยโดนคิมมูจินและเพื่อนๆ รังแก โดยว่าเขาเป็นลูกฆาตกรและจับเขามัดไว้ที่ต้นไม้และใช้หินขว้างปา ขณะที่เล่าแบคฮีซองก็หยิบฆ้อนมาทาบใบหน้าของมูจิน และพูดเหมือนกับคิมมูจินในตอนนั้นว่า หากเจ็บก็ให้บอก เพราะเขาจะยิ่งสนุก แต่แบคฮีซองยังไม่ทำร้ายมูจิน และบอกว่าแค่ล้อเล่น เพราะหากจะฆ่าจริงๆ ก็คงเตรียมผ้าพลาสติกมารองพื้นไว้แล้ว จากนั้นเขาบังคับให้มูจินบอกรหัสเปิดโทรศัพท์ และโทรไปลางานที่สำนักพิมพ์

คิมมูจินเพิ่งรู้ว่าโทฮยอนซูก็คือแบคฮีซองสามีของสายสืบชาจีวอน หลังจากที่ฮีซองพูดว่าเหตุใดเขาจึงรอดจากการไล่ล่าของตำรวจมาได้ตั้งสิบแปดปี และยอมรับว่าเขาคือคนที่ฆ่าลุงผู้ใหญ่บ้านในตอนนั้น

ฮีซองนำกระเป๋าของคิมมูจินซ่อนไว้ในตู้ลับที่ผนังหลังตู้เสื้อผ้าในเวิร์กชอปของเขาตั้งแต่วันก่อน เมื่อกลับขึ้นมาจากห้องใต้ดิน เขาจึงปิดโทรศัพท์ของมูจินและเก็บเข้ากระเป๋า

นักสังคมสงเคราะห์พัคซอยองโทรแจ้งตำรวจเมื่อพบศพคุณย่าจองมุนอ๊กถูกฆาตกรรม หมอชันสูตรว่าถูกแทงและฟันแปดแผลและเสียเลือดมากจนกระทั่งเสียชีวิต สภาพศพมีเชือกพาดอยู่ที่คอแต่ไม่มีรอยรัด เล็บหัวแม่มือทั้งสองข้างถูกถอดออกออกไป และโดนหักข้อเท้าหลังจากเสียชีวิต ฆาตกรต้องการจัดฉากให้เหมือนโทมินซอกซึ่งเป็นฆาตกรต่อเนื่องเมื่อสิบแปดปีก่อน ที่ชอบถอดเล็บหัวแม่มือของเหยื่อเพื่อเป็นที่ระลึก หมอพบสีบางอย่างที่ปลายนิ้วของศพ ซึ่งไม่ใช่รอยเลือด จึงนำไปพิสูจน์

คุณย่าจองมุนอ๊กคือผู้บริจาครายใหญ่ของศูนย์สวัสดิการคังซู ทางศูนย์จึงส่งพัคซอยองมาดูแลเป็นพิเศษอยู่เสมอ สายสืบชเววิเคราะห์ว่าแรงจูงใจของการฆาตกรรมน่าจะเป็นเรื่องเงิน พัคซอยองให้การว่าคุณย่าอยู่คนเดียวและมีลูกชายหนึ่งคนซึ่งติดการพนัน และคุณย่าโทรหาเธอก่อนตายเรื่องพินัยกรรม

ชาจีวอนแปลกใจว่าทำไมทุกคนจึงคิดว่าเหมือนคดีของโทมินซอกทั้งๆ ที่ปิดคดีไปแล้ว อิมโฮจุนจึงบอกว่าเป็นเพราะข่าวที่คิมมูจินเพิ่งเขียนในโพสต์เมื่อไม่นานมานี้ จึงทำให้ฆาตกรพยายามเลียนแบบ เขาเปิดภาพข่าวเก่าให้จีวอนดู และบอกว่าข้อแตกต่างก็คือฆาตกรโทมินซอกไม่ใช้เชือกพาดที่ลำคอของเหยื่อ แต่เป็นสายจูงสุนัขแบรนด์ฮาวด์ด๊อกซึ่งมีดีไซน์พิเศษ และฆาตกรไม่ได้หักข้อเท้าเหยื่อแต่เป็นการตัดเอ็นร้อยหวาย โฮจุนจึงสรุปว่าฆาตกรรายนี้ไม่รู้เรื่องของโทมินซอกเลย

จีวอนรีบไปที่โรงเรียนของอึนฮา เพราะเธอทะเลาะกับซูยองและโดนรังแกจนเลือดกำเดาไหล แต่แม่ของซูยองไม่ยอมให้ลูกของเธอขอโทษอึนฮา เพราะอึนฮาเป็นฝ่ายไปแตะต้องตุ๊กตาของซูยองก่อน แม่ซูยองยังบอกจีวอนอีกว่าอย่าสั่งสอนให้ลูกเป็นขโมย หลังจากที่แบคฮีซองแอบเอาตุ๊กตาของซูยองไปทิ้งแล้ว เขาจึงเดินเข้าไปในห้องและขอโทษแม่ของซูยอง และให้อึนฮาขอโทษทุกคนด้วย อึนฮาติดพ่อและยอมเชื่อฟังเขาทุกอย่าง จึงต้องจำใจขอโทษ ทำให้จีวอนไม่พอใจและขึ้นเสียงต่อว่าฮีซอง เขามองจีวอนด้วยสายตานิ่งเฉยและเย็นชา แต่ในที่สุดเขาก็ฝืนยิ้มให้เธอตามที่เคยแอบฝึกไว้

จากนั้นจีวอนก็รีบกลับไปทำงานเมื่อรู้ว่าผลการพิสูจน์สีที่พบบนนิ้วของเหยื่อคือสีของลิปสติก

แบคฮีซองพาอึนฮาไปกินขนมโปรดของเธอ แต่เธอยังงอนพ่อที่เข้าข้างซูยองมากกว่าเธอ ฮีซองจึงอธิบายว่าตอนนี้อึนฮาเป็นคนมีชื่อเสียงที่ดีแล้ว เพราะเวลาที่เกิดเรื่อง ก็จะไม่มีใครสงสัยเธออีก และหลังจากเกิดเรื่องวันนี้ ซูยองและแม่ของเธอจะกลายเป็นคนชื่อเสียงไม่ดี เขายังปลอบอึนฮาไม่ให้เสียใจ เพราะเขาเห็นซูยองร้องไห้ที่รู้ว่าตุ๊กตาหายไป จากนั้นอึนฮาจึงยอมกินขนมและบอกว่าเธอชอบพ่อที่สุดในโลก


สายสืบชเวนำพินัยกรรมที่มีลายนิ้วมือของคุณย่ามุนอ๊กให้อันจองกูดู ขณะที่นำตัวมาสอบสวน และสงสัยว่าเขาเป็นคนฆ่าแม่ตัวเอง เพราะมีพยานบอกว่าได้ยินเขาทะเลาะกับแม่ในคืนเกิดเหตุ หลังจากที่รู้ว่าแม่จะบริจาคเงินทั้งหมดให้ศูนย์สวัสดิการหลังจากที่เธอตายแล้ว อันจองกูไม่พอใจคำกล่าวหานี้และขอให้สายสืบชเวหาหลักฐานมาพิสูจน์
ชาจีวอนพยายามอธิบายให้สายสืบชเวฟังถึงสาเหตุที่เหยื่อโดนถอดเล็บก็เพราะว่ามีรอยลิปสติก จึงต้องการสืบหาคนที่เหยื่อรู้จัก ขณะที่สายสืบชเวยังเชื่อมั่นว่าเป็นเรื่องพินัยกรรม ทันใดนั้นจีวอนหันไปเห็นลายนิ้วมือของคุณย่ามุนอ๊กบนพินัยกรรม จึงให้โฮจุนนำไปพิสูจน์แลได้รับการยืนยันว่าเป็นลิปสติก สายสืบชเวตอบข้อสงสัยของจีวอนได้ทันทีว่าพัคซอยองคือคนที่นำพินัยกรรมไปให้เหยื่อ หัวหน้าจึงสั่งให้สืบหาแรงจูงใจที่พัคซอยองฆ่าเหยื่อ
สายสืบชเวตรวจสอบกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุและพบว่าพัคซอยองเปลี่ยนชุดกลับด้านหลังจากที่ฆ่าเหยื่อ และนำซองที่ใส่เล็บของเหยื่อและอาวุธไปซ่อนไว้บนดาดฟ้า


ชาจีวอนไปพบพัคซอยองเพื่อขอตรวจดีเอ็นเอ แต่เธอปฏิเสธและมีท่าทีก้าวร้าวขึ้นมาทันที เมื่อสายสืบชเวโทรบอกจีวอนว่าพบหลักฐานแล้ว เธอจึงขอจับกุมพัคซอยอง แต่พัคซอยองขอแต่งหน้าก่อน โดยบอกว่าก่อนหน้านี้ต้องแกล้งทำเป็นโศกเศร้าจึงไม่ได้แต่งหน้า ขณะที่แต่งหน้าอยู่นั้นเธอบอกจีวอนว่าเหตุที่ต้องฆ่าเพราะทางขึ้นลงบ้านคุณย่ามุนอ๊ก มีบันไดมากเกินไป ซึ่งทำเธอลำบากที่ต้องคอยไปดูแลคุณย่าบ่อยๆ หลังจากที่ลงมือฆ่าแล้ว เธอจึงโทรแจ้งตำรวจว่าเป็นคนพบศพและแกล้งร้องไห้ฟูมฟาย จีวอนยืนฟังพัคซอยองด้วยความตั้งใจและถามว่าฆ่าคนแบบนั้นได้อย่างไร พัคซอยองจึงตอบว่ามีคนเหมือนเธออยู่สามเปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจเป็นคนใกล้ตัวของจีวอนก็ได้ เมื่อจีวอนเผล เธอจึงใช้ใบมีดโกนปาดหน้าของจีวอนจนเกิดบาดแผลเล็กน้อย จีวอนตบหน้าพัคซอยองไปหลายฉาดก่อนที่จะจับใส่กุญแจมือ


แบคฮีซองพาอึนฮาไปฝากไว้กับคุณยายโดยอ้างว่ามีธุระต้องทำ เมื่อเห็นตารางนัดในไดอารี่ของนักข่าวคิม เขาจึงนำน้ำดื่มลงไปหาคิมมูจิน เพื่อแลกกับน้ำดื่มนักข่าวคิมจึงยอมเล่าว่านัดกับนัมซุนกิลเรื่องข้อมูลของโทฮยอนซู จากนั้นฮีซองนำโทรศัพท์ของคิมมูจินออกไปและแอบดูนัมซุนกิลอยู่ห่างๆ เมื่อเห็นเขากำลังรอนักข่าวคิม ฮีซองจึงโทรหาซุนกิลโดยอ้างว่าตัวเองคือคิมมูจินและมาตามนัดไม่ได้ จึงให้ซุนกิลเล่าทางโทรศัพท์ ซุนกิลให้ข้อมูลว่าเขาเคยทำงานส่งของกับโทฮยอนซูตั้งแต่เขาหายตัวไปเมื่อปี 2002 จนกระทั่งปี 2005 โดยที่ไม่รู้ว่าเขาและพ่อเคยฆ่าคนมาก่อน และโทฮยอนซูก็เคยโทรมาขู่เขา เพราะในตอนนั้นเขาอยากมีชีวิตที่ดี จึงทำร้ายฮยอนซูและขโมยเงินของเขา เมื่อฟังคำบอกเล่าของซุนกิลแล้ว แบคฮีซองจึงบอกว่าขอให้ลืมฮยอนซูและไปสงสัยคนอื่นดีกว่า เพราะฮยอนซูตายไปแล้ว


แบคฮีซองไปหาแม่ที่ร้านขายยาเพื่อขอยานอนหลับ ก่อนที่จะไปรับจีวอนไปกินข้าวด้วยกัน ในคืนนั้นเขาวางยาจีวอนจนเธอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ฮีซองใส่ชุดคลุมสีดำออกมาขณะที่ฝนตกหนัก เพื่อไปซื้อสายจูงสุนัขแบรนด์ฮาวด์ด๊อกและตรงไปที่ร้านของนัมซุนกิล ซุนกิลกำลังบันทึกเสียงฝากข้อความเพิ่มเติมในโทรศัพท์ของนักข่าวคิม ทันใดนั้นฮีซองเดินเข้ามาและกระหน่ำแทงซุนกิลจนตาย และนำภาพข่าวตัวเองมาปักไว้ด้วยมีดบนผนังในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งบนผนังแห่งนั้นมีแต่ภาพข่าวและเหยื่อจากการฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อสิบแปดปีก่อน
จีวอนตื่นขึ้นมาเวลา 03.30 น. ไม่พบฮีซอง จึงเดินออกมาดู และแปลกใจที่เห็นเขาเพิ่งกลับเข้ามาในชุดคลุมสีดำซึ่งเปียกน้ำฝน