ชื่อเรื่องย่อหลัก

ในฤดูหนาว ปี 2006

ขณะที่ฮีซองไปซื้อเบียร์ที่ร้านของจีวอน ได้เกิดไฟฟ้าดับ ฮีซองใช้ไฟแช็คจุดเทียนไขให้เธอ ด้วยความกลัวที่อยู่คนเดียว จีวอนอยากให้ฮีซองอยู่เป็นเพื่อนโดยบอกว่า เมื่อตอนที่ไฟดับคราวก่อน มีโจรปล้นร้านผลไม้ตรงข้ามกับร้านของเธอ ฮีซองไม่สนใจและเดินออกจากร้าน จีวอนจึงคิดว่าเขาเมินเฉย แต่ที่จริงเธอหันไปเห็นฮีซองยืนอยู่ด้านนอกท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาเบาๆ จนกระทั่งไฟฟ้าติดเขาจึงกลับไป หลังจากที่รู้จักกันแล้ว จีวอนเอ่ยปากชอบเขาก่อน และหาว่าเขาหยิ่ง วันหนึ่งขณะที่อยู่ข้างนอกด้วยกัน ฮีซองขอให้เธอรีบกลับบ้านเพราะกลัวแม่เป็นห่วง เธอจึงขอขี่หลังของเขา เมื่อเขาเมินเฉยและกำลังเดินจากไป จีวอนพูดขึ้นมาว่าเขาก็ชอบเธอเหมือนกัน เธอรู้และเห็นทุกอย่างเพราะมันออกจะชัดเจน ฮีซองจึงบอกว่าจีวอนจะไปรู้อะไรและถามจีวอนกลับว่าเธอรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง..

--------------------------------------------------
ปัจจุบัน

เจ้าของโรงแรมขึ้นมาตามฮีซอง เพราะคิดว่าเขาเรียกบริการแท็กซี่ ฮีซองลงไปคุยกับพัคคยองชุนในรถ และบอกว่าไม่รู้จักทั้งเขาและจองมีซุก พัคคยองชุนจึงบอกว่า ถ้าเช่นนั้นนัมซุนกิลก็คงตายฟรี คิมมูจิน นึกไม่ออกว่าจองมีซุกคือใคร จนกระทั่งหมอท้องถิ่นซึ่งเคยรู้จักกันกำลังทำแผลให้เขาบอกว่า เธอคือเหยื่อรายสุดท้ายของโทมินซอก ซึ่งยังหาศพไม่เจอ เขาจึงรีบโทรหาฮีซองทันที และบอกว่าคนร้ายก็คือสามีของจองมีซุก ฮีซองหันไปมองหน้าพัคคยองชุนซึ่งถือรูปของเขากับจีวอนตอนตั้งท้อง เมื่อพัคคยองชุนถามว่าลูกสาวหรือลูกชาย ฮีซองคว้ารูปใบนั้นมาฉีกทันทีและบอกว่าเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับโทมินซอก แต่หากอยากได้อะไรเป็นการชดเชยก็ให้บอก พัคคยองชุนอาศัยจังหวะนี้โปะยาสลบฮีซอง แต่เขาต่อสู้โดยใช้กระจกที่เตรียมมา แทงขาพัคคยองชุน และตะเกียกตะกายออกจารถเพื่อเอารูปที่ฉีกไปโยนใส่กองไฟที่หน้าโรงแรม พัคคยองชุนตามออกมาและต่อสู้กัน แต่ด้วยฤทธิ์ยาทำให้ฮีซองเสียท่าโดนโปะยาอีกครั้งจนสลบและถูกลากขึ้นรถไป โดยที่โทรศัพท์ของเขาหล่นอยู่ตรงนั้น เจ้าของโรงแรมเห็นเหตุการณ์ จึงโทรแจ้งตำรวจ


จีวอนรู้แล้วว่านาฬิกาเรือนนั้นเป็นของแบคฮีซอง จึงบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นว่าเป็นของเธอเอง จากนั้นเธอได้ยินการรับแจ้งคนขับแท็กซี่ทำร้ายผู้โดยสาร บริเวณหน้าโรงแรมข้างบ่อตกปลา จีวอนและอิมโฮจุนจึงตามไปดู

หัวหน้ายุนโมโหชเวแจซอบที่เสียรู้คนร้ายจนถูกดักฟัง จึงสั่งให้เร่งจับตัวพัคคยองชุน หัวหน้าอูชอลโทรบอกอิมโฮจุนว่ากำลังแกะรอยแท็กซี่ของพัคคยองชุน เมื่อได้ตำแหน่งแล้วให้รีบตามไป จีวอนหงุดหงิดที่โฮจุนถามถึงเรื่องนาฬิกา เธอจึงบอกว่าเป็นของสามีที่เธอใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเพื่อนำไปซ่อม เจ้าของโรงแรมดูรูปและยืนยันกับจีวอนและโฮจุนว่าเป็นพัคคยองชุนที่ลักพาตัวแขกของเธอไป จีวอนเดินไปตามเสียงโทรศัพท์ที่ตกอยู่ และตกใจเมื่อเห็นภาพหน้าจอคืออึนฮาลูกสาวของเธอ แต่เสียงโทรศัพท์หยุดไปแล้ว จีวอนบอกโฮจุนว่าคนที่ถูกลักพาตัวไปคือสามีของเธอเอง เมื่อหัวหน้าโทรมาบอกตำแหน่งของแท็กซี่ จีวอนและโฮจุนจึงรีบตามไป

พัคคยองชุนไม่ได้ใช้ความเร็วมากนัก ในขณะที่จีวอนขับตามไปด้วยความเร็วจนกระทั่งเห็นรถแท็กซี่คันนั้นแล่นอยู่บนเลนส์คู่ขนานกับเธอ เมื่อจีวอนขับเข้าไปกระชั้นชิด พัคคยองชุนจึงใช้มิเตอร์หน้ารถเขวี้ยงไปที่รถของจีวอนจนทำให้เสียหลัก

คยองชิก ตำรวจสถานียอนจู ขอสอบปากคำคิมมูจินหลังจากที่ทำแผลเสร็จแล้ว หมอจึงขอให้เขาเล่าเหตุการณ์เมื่อสิบแปดปีก่อนให้คิมมูจินฟัง เพราะเขาอยู่ในทีมสืบสวนตอนนั้น

ฮีซองตื่นมาพบว่าตนเองถูกมัดมือและเท้านอนอยู่ที่ก้นสระน้ำร้าง ซึ่งเป็นที่ลับของพัคคยองชุน พัคคยองชุนคิดไม่ถึงว่า ฆาตกรอย่างโทฮยอนซูได้ตัวตนใหม่ โดยมีใบขับขี่ในชื่อของแบคฮีซอง ได้แต่งงานมีครอบครัวและลูกที่น่ารัก ฮีซองบอกว่ารู้สึกสมเพชที่พัคคยองชุนอยากแก้แค้นฆาตกรที่ตายไปแล้ว ลูกชายอย่างโทฮยอนซูจึงถูกตามล่าแทน ซึ่งเขาเคยอยู่โรงพยาบาลบ้า ไร้จิตใจและโดนผีเข้าสิง ชอบอยู่ตามลำพังเหมือนพ่อ เขารู้ว่าพ่อทำผิดและชอบทำผิดเหมือนพ่อ เมื่อพัคคยองชุนรู้ว่าฮีซองไม่กลัวอะไร เขาจึงแทงเข้าที่ชายโครงและบอกว่าจะทำให้ทรมานจนกว่าจะบอกว่าจองมีซุกอยู่ที่ไหน ฮีซองแกล้งงพูดพึมพำเบาๆเพื่อให้พัคคยองชุนเขยิบมาฟังใกล้ๆ จากนั้นฮีซองก็กัดหูของพัคคยองชุนและบอกว่าต่อให้ฆ่าเขาก็ไร้ประโยชน์ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนทำและไม่มีหลักฐาน แต่เขาอยากรู้ว่าสิ่งที่พัคคยองชุนทำ มันจะทำลายเขาได้อย่างไร และท้าให้พัคคยองชุนทำให้เห็น พัคคยองชุนจึงลุกขึ้นยืน

จีวอนร้อนใจเป็นห่วงสามีและกลัวว่าเขาจะถูกฆ่าแบบนัมซุนกิล จึงให้สายสืบชเวช่วยคิด จากนั้นสายสืบชเวจึงบอกให้จีวอนและโฮจุนตามไปที่บ้านพักของพัคคยองชุน

พ่อแม่ของฮีซองไม่เข้าใจว่าลูกชายของตนถูกลักพาตัวไป เกี่ยวข้องอย่างไรกับคดีฆาตกรรมนัมซุนกิล หัวหน้าอูชอลจึงแกล้งเล่าเรื่องโทฮยอนซูเป็นฆาตกรที่ฆ่าหัวหน้าหมู่บ้านเมื่อสิบแปดปีก่อน และเป็นลูกของโทมินซอกฆาตกรต่อเนื่อง และเป้าหมายของคนร้ายก็คือโทฮยอนซู ทั้งแบคมันอูและกงมีจาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและขอให้ช่วยแบคฮีซองกลับมาให้ได้ เมื่อกลับออกไปแล้ว หัวหน้าอูชอลแปลกใจว่าเวลามีคนถูกลักพาตัว การคุยกับครอบครัวของเหยื่อไม่น่าจะราบรื่นแบบนี้ ทั้งคู่ให้ความสนใจคดีฆาตกรรมมากกว่าลูกชายที่ถูกลักพาตัวไป

กงมีจาบ่นกับสามีที่แบคฮีซองสร้างแต่เรื่องวุ่นวาย แบคมันอูจึงบอกว่ารู้ตัวอยู่แล้วว่าต้องเจอกับอะไรตั้งแต่ตอนที่รับเขาไว้ ทั้งที่รู้ว่ามีประวัติไม่ดี ทั้งคู่เดินไปคุยกันต่อหน้าแบคฮีซองที่เป็นเจ้าชายนิทรา กงมีจามั่นใจว่าคนร้ายรู้ว่าฮีซองก็คือโทฮยอนซู เธอกังวลว่าหากพัคคยองชุนถูกจับได้ คนอื่นก็จะรู้ว่าฮยอนซูปลอมตัวเป็นฮีซอง และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอและสามี ใครจะดูแลฮีซองลูกชายของเธอ แบคมันอูจึงบอกมีจาว่าเขามั่นใจว่าคนร้ายต้องฆ่าโทฮยอนซูแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาจะต้องแกล้งทำเป็นผัวเมียที่น่าสงสารที่โดนโทฮยอนซูหลอกใช้ และแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าเขาคือโทฮยอนซูลูกชายของฆาตกรต่อเนื่องและอาชญากรที่หนีหมายจับ

ฮีซองถูกมัดอยู่กับเหล็กที่ก้นสระและยังคงยืนกรานว่าไม่รู้เรื่อง ขณะที่พัคคยองชุนเริ่มเปิดน้ำเข้าสระเพื่อบังคับให้ฮีซองบอก พัคคยองชุนถามว่าฮีซองทำอะไรในวันที่จองมีซุกหายตัวไปในวันที่ 12 พ.ค. 2002 ซึ่งจองมีซุกนั่งอยู่ในรถเอสยูวีสีดำ ทะเบียน 3194 ซึ่งเป็นของโทมินซอก


คิมมูจินพาคยองชิกไปเลี้ยงเหล้าจนเมาหลังจากที่ได้ฟังคดีของจางมีซุก และเพื่อให้คยองชิกสบายใจว่าเรื่องนี้ไม่ได้ถูกบันทึกเสียงไว้ เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาวางไว้ที่โต๊ะ แต่ไม่พบเครื่องบันทึกเสียง เพราะมันหล่นอยู่ที่บ้านป้าอ๊กจา คิมมูจินขอตัวเข้าห้องน้ำเพื่อแอบเขียนข้อมูลย่อๆลงบนแขนของตนเอง

พัคคยองชุนกินยาโรคประจำตัว และปล่อยให้น้ำในสระสูงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเล่าต่อว่า ในวันนั้นเวลาตีสองครึ่งที่สี่แยกแขวงเซฮยอนสอง มีคนเห็นจองมีซุกถูกบังคับให้ขึ้นรถของโทมินซอก และได้โทรแจ้งตำรวจ โทมินซอกถูกนำตัวมาสอบสวนแต่ก็รอดไปได้ก็เพราะมีลูกชายเป็นพยานให้ และหากวันนั้นโทมินซอกถูกจับ จองมีซุกก็คงไม่ตาย ฮีซองจึงบอกว่าเขาพูดความจริงเพราะอยู่กับพ่อตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงเช้าวันถัดมา และพยานอีกคนให้การกลับไปกลับมา ฮีซองแปลกใจเมื่อพัคคยองชุนให้ดูพวงกุญแจรูปปลาซึ่งจองมีซุกก็มีเหมือนกัน แต่ทำไมนัมซุนกิลบอกว่าเป็นของโทฮยอนซู

ฮีซองจำได้ว่าโทแฮซูพี่สาวของเขาเอามาให้ในงานศพของพ่อและบอกให้เขาพกติดตัวเพราะเป็นปลานำโชค เขาไม่ยอมพูดอะไรจนทำให้พัคคยองชุนโมโห ขณะที่เขาพยายามดิ้นให้เชือกหลุดและกำลังจะจมน้ำ

นักข่าวพากันไปรอสัมภาษณ์โทแฮซู เพราะประชาชนสงสัยว่าเธอกำลังช่วยน้องชายหลบหนี แต่เธอบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น

จีวอน โฮจุน และสายสืบชเว ช่วยกันรื้อห้องของพัคคยองชุน จนเจอเบอร์โทรของช่างทำกลอนประตู และรีบตามไปตามที่ช่างบอก ขณะที่ฮีซองกำลังจมน้ำและบอกว่าเขาไม่ได้ฆ่าจองมีซุกและไม่รู้ว่าศพอยู่ที่ไหน

สายสืบชเวพังประตูเข้าไปและต่อสู้กับพัคคยองชุน และโดนแทงขณะที่กำลังใส่กุญแจมือพัคคยองชุน อิมโฮจุนเข้ามาช่วยและเล็งปืนไปที่พัคคยองชุน แต่เขาไม่กล้ายิงจนกระทั่งพัคคยองชุนใช้มีดจี้คอสายสืบชเวเป็นตัวประกัน สายสืบชเวดันพัคคยองชุนไปด้านหลัง จนทำให้พัคคยองชุนโดนน๊อตแทงที่หัว สายสืบชเวเสียเลือดมากจนสลบไป


จีวอนรีบวิ่งเข้าไปและกระโดดลงไปในสระเพื่อช่วยฮีซอง ฮีซองลืมตาขึ้นมาเห็นจีวอน เขาคิดว่าตัวเองควรจะบอกความจริงกับจีวอนดีไหมและคิดถึงเรื่องราวในอดีต
ตอนที่เขาบอกกับจีวอนว่า เขาเรียนไม่จบมัธยมปลายเพราะปรับตัวไม่ได้ และเคยอยู่ในแก๊งที่คอยหาเรื่องคนอื่นทั้งวัน เขาเคยต่อยผู้ชายคนหนึ่งจนนิ้วตัวเองแตก แต่ก็รู้สึกดี และชอบเห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็น ในขณะที่กำลังเล่าและเห็นภาพหลอนของพ่อที่ถือเชือก เขาบอกเธอว่าในหัวของเขาไม่ปกติ จีวอนหันไปมองตามเขา แต่ก็ไม่เห็นอะไร เธอบอกว่าเธอก็เคยฝันเห็นคุณย่าที่ตายไปแล้ว แต่พอบอกให้เธอไปสู่สุขคติ คุณย่าก็ไม่มาอีกเลย จีวอนบอกฮีซองมองไม่เห็นตัวเองอย่างที่เธอเห็น ต่อไปเธอจะชอบเขาให้มากๆ จะสอนทุกอย่างที่เขาไม่รู้ และวันหนึ่งทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป ฮีซองฟังเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ภายในใจรู้สึกชอบจีวอน ขณะที่จีวอนจูบฮีซอง เขามองเห็นพ่ออีกครั้งและพูดในใจให้พ่อไปได้แล้ว เพราะเขาอยากอยู่ที่นี่ เมื่อเห็นพ่อเดินหันหลังกลับไป ฮีซองจึงเป็นฝ่ายโน้มตัวจีวอนเข้ามาจูบ..

------------------------------------
จีวอนพยายามแก้เชือกให้ฮีซองที่สลบอยู่ใต้น้ำจนสำเร็จและช่วยฮีซองขึ้นมาจากสระ และรีบปั๊มหัวใจและร้องเรียกคนให้มาช่วยฮีซอง..

ฮีซอง ที่คิดว่าตัวเองโชคดีมาตลอดที่เจอกับจีวอน แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกว่าเขานั้นไม่ควรเจอจีวอนเลย เขารู้สึกขอโทษจีวอน..