ชื่อเรื่องย่อหลัก

ทุกคนในหมู่บ้านรวมทั้งซองฮยอนและนักเขียนวังมาร่วมงานศพของคุณยายกัมรี ทุกคนพยายามพูดคุยกันและทำตัวให้ร่าเริงตามเจตนารมย์ของท่าน เพราะท่านได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีแล้ว หลังจากเสร็จพิธีศพ ลูกชายของคุณยายตั้งใจจะเก็บบ้านของท่านไว้และจะแวะมาเป็นครั้งคราว ในระหว่างนั้นคุณยายมาจีละคุณยายซุกจาก็หมั่นมาดูแลเหมือนเมื่อครั้งคุณยายกัมรียังมีชีวิตอยู่ ทุกคนดำเนินชีวิตกันต่อไปแต่ก็ยังโศกเศร้าในแบบฉบับของตนเอง เพราะต่างก็ตระหนักดีว่าตราบใดที่ความทรงจำอันมีค่ายังคงอยู่ การมีอยู่ของสิ่งนั้นก็จะไม่จางหายไป ฮเยจินเจอจดหมายของคุณยายที่เขียนให้หัวหน้าฮงในตะกร้าข้าวโพดต้มที่เก็บไว้ในตู้เย็น หัวหน้าฮงร้องไห้โฮออกมาอย่างเต็มที่เมื่ออ่านจดหมายของคุณยายที่ทั้งรักและเป็นห่วงเหมือนกับลูกชายและหลานชายของท่าน

หนึ่งเดือนต่อมา..
หลังจากที่ซองฮยอนตัดต่องานเสร็จเรียบร้อยและเห็นนักเขียนวังมีอาการปวดท้อง เขาจึงดูแลเธอด้วยความเป็นห่วงโดยเตรียมยาที่เธอกินเป็นประจำไว้ล่วงหน้า แต่นักเขียนวังไม่ต้องการความห่วงใยของเขาที่เกิดจากความเคยชินที่ร่วมงานกันมานาน เพราะนั่นจะทำให้เธอยิ่งชอบเขามากขึ้นและพยายามตัดใจโดยไม่อยากร่วมงานกับเขาอีก

ฮเยจินตัดสินใจไม่ไปทำงานที่โซลเพราะเธอรักกงจินและมีหัวหน้าฮงอยู่ที่นี่ แต่เธอมีความจำเป็นต้องไปสัมมนาที่นั่นสักสองสามวัน ฮเยจินแวะไปกินข้าวกับแม่เลี้ยงของเธอซึ่งชวนให้ฮเยจินพาหัวหน้าฮงมาด้วยในโอกาสหน้า

มีซอนหลงดีใจคิดว่าตัวเองถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งเพราะเธอตั้งใจอยากจะมีบ้านสักหลังเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับชเวอึนชอลตลอดไป แต่เธอรู้สึกผิดหวังเมื่อลอตเตอรี่ใบนั้นเป็นของงวดเก่า ชเวอึนชอลพาเธอไปดูที่ริมทะเลและเปิดบัญชีเงินฝากของเขาให้เธอดูเพื่อทำความฝันของเธอให้เป็นจริง เพราะเขาเคยถูกลอตเตอรี่มาแล้ว ส่วนหนึ่งได้บริจาคเพื่อการกุศลและอีกส่วนหนึ่งเพื่อการศึกษาจนกระทั่งเขาได้เป็นตำรวจตามที่หวัง

สำนักงานผู้ใหญ่บ้านเปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์ความสุข ซึ่งยองกุกบอกว่าเขาจะเป็นศูนย์ความสุขให้ฮวาจองเช่นกัน อีจุนแกะน้ำตาลแผ่นรูปหัวใจกับโบราเพราะหวังว่าเธอจะเข้าใจความหมาย แต่โบรากินเข้าไปและบอกว่าอร่อยดี ซองฮยอนแวะไปหาหัวหน้าฮงเพราะคิดเรื่องนักเขียนวัง ซองฮยอนอยากอยู่กับนักเขียนวังไปตลอดทั้งชีวิต ถึงแม้จะทะเลาะกันบ้างแต่เขาก็รู้ว่าเธออยู่ข้างเดียวกับเขาเสมอ แต่เขากลัวการเริ่มต้นอย่างวู่วาม หัวหน้าฮงจึงบอกว่าอย่ามัวแต่ลังเลก่อนจะเสียโอกาสนั้นไป

ตั้งแต่ฮเยจินไปสัมมนาที่โซล หัวหน้าฮงก็ได้แต่คิดถึงเธอตลอดเวลา จนกระทั่งวันที่เธอกลับมาทั้งคู่จึงสวมกอดกันราวกับไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน จากนั้นฮเยจินจึงปรึกษามีซอนเพราะตัดสินใจที่จะขอแต่งงานกับหัวหน้าฮง เพราะเธอไม่อยากทิ้งหัวหน้าฮงให้อยู่คนเดียวอีกต่อไป มีซอนแนะนำฮเยจินคิดไปถึงจุดเริ่มต้นตอนที่เธอและหัวหน้าฮงได้พบกันครั้งแรก

วันต่อมาฮเยจินจึงนัดหัวหน้าฮงที่ริมหาดและพูดถึงความอลหม่านในวันที่พวกเขาพบกัน จนกระทั่งได้มารักกันในวันนี้ เธอนำรองเท้าของเธอและของหัวหน้าฮงมาวางไว้คู่กันและบอกว่าอยากให้รองเท้าของพวกเขาทั้งคู่วางอยู่ข้างกันที่หน้าประตูบ้านตลอดไป จากนั้นเธอก็ขอเขาแต่งงาน แต่หัวหน้าฮงปฏิเสธเพราะเขาตั้งใจจะขอเธอแต่งงานก่อน และมอบสร้อยคอจี้เพชรให้เธอพร้อมทั้งกำชับว่าห้ามขายบนตลาดออนไลน์อีก

ฮเยจินเตรียมเขียนลิสต์เพื่อแบ่งหน้าที่กันหลังแต่งงานและเปลี่ยนสรรพนามเรียกกันและกันว่า “ตัวเอง” ในคืนนั้นเธอบอกว่าไม่อยากกลับบ้านและทั้งคู่ก็เป็นของกันและกัน หัวหน้าฮงทำอาหารให้เธอในตอนเช้าและบอกว่าเขาอยากมีลูกสองคน ในตอนเช้าเป็นวันทำความสะอาดหมู่บ้าน ทั้งคู่จึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่าพวกเขากำลังจะแต่งงานกันท่ามกลางความดีใจของทุกคน

ซองฮยอนเผยความในใจให้นักเขียนวังได้รับรู้โดยบอกว่า ต่อไปนี้เธอกับเขาต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนก็ตาม หลังจากนั้นพวกเขาก็ปรึกษากันว่าจะทำพล็อตเรื่องใหม่เกี่ยวกับความรักที่เกิดจากการรู้จักกันมานานและค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกที่มีให้กันเหมือนเรื่องราวของพวกเขาสองคน

ซองฮยอนไปที่หมู่บ้านกงจินเพื่อร่วมดูรายการ”ตั๊กแตนหมู่บ้านริมทะเล”ของเขากับชาวบ้านทุกคนสำหรับการออกอากาศวันแรก หลังจากออกอากาศทุกคนก็ได้รับของขวัญเซอร์ไพรส์เพราะกิจการของพวกเขารุ่งเรืองขึ้น เถ้าแก่โอได้รับเชิญไปในรายการ”ชูก้าพีเพิ่ล” ในฐานะนักร้องในตำนาน

ฮเยจินและหัวหน้าฮงตรียมถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วยกันที่หมู่บ้านกงจิน และตั้งใจจะไปจัดงานแต่งงานที่โซลโดยเตรียมรสบัสให้ทุกคนได้ไปร่วมงาน พวกเขาตั้งใจออกไปถ่ายรูปด้วยกันสองคน แต่ต้องพบกับความวุ่นวายเมื่อชาวบ้านทุกคนอยากจะมีส่วนร่วมด้วย พวกเขาจึงวิ่งหนีขึ้นไปบนเขาซึ่งมีเรือของหัวหน้าฮงอยู่บนนั้นและมีชื่อของคุณย่าอยู่ที่ข้างเรือ หัวหน้าฮงบอกว่าจะเขียนชื่อของฮเยจินไว้ที่หัวเรือ ซึ่งเธอบอกว่าจะคอยอยู่ที่หน้าเรือเพื่อเปิดทางให้เขาในวันที่มีคลื่นลมและพายุฝน จากนั้นพวกเขาก็ถ่ายรูปคู่กัน จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์ว่าคุณยายมาจีลื่นล้ม พวกเขาจึงวิ่งลงจากเขาไปด้วยกันทันที