ชื่อเรื่องย่อหลัก

นอกจากพนักงานฝึกหัดทั้งสามคนแล้ว จุนซูและอันซังจง ก็ถูกเชิญไปที่โรงพักด้วย มันชิกถูกสอบปากคำเรื่องการเข้างานเพื่อหวังแทรกแซงและขัดขวางคายอลชัน ยุนซูบอกว่าตัวเองได้เข้ามาเพราะความสามารถ ส่วนอีแทลีตัดพ้อว่าตัวเองไม่สมควรได้เข้ามาทำงานที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วและคงปิดโอกาสของคนอื่น ขณะที่หัวหน้าแบ๊คกำลังคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่อีกคนที่อีกด้านหนึ่ง


เมื่อหกเดือนก่อน

ตอนที่เริ่มมีการสัมภาษณ์พนักงานฝึกหัด ท่านประธานนัมกุงพโย ได้มีแผนรองรับทุกอย่างไว้แล้ว เขารับสาวสูงวัยอย่างอ๊กคยองอีเข้ามาเป็นหูเป็นตา โดยทำหน้าที่เป็นแผนกต้อนรับฝ่ายหน้า เพื่อไม่ให้คนสงสัย ในวันที่มีการสัมภาษณ์พนักงานฝึกหัด

แม้ว่านัมกุงจุนซูจะสั่งให้อันซังจงและหัวหน้าแบ๊คแกล้งให้คะแนนตรงกันข้ามกับของยอลชัน แต่ปรากฏว่าทุกคนที่ได้เข้ามาทำงานนั้น เป็นเพราะอันซังจงและหัวหน้าแบ๊คเห็นความสามารถและความโดดเด่นของแต่ละคน ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการทุจริตในการเข้างาน

แผนของคูจาซุกไม่สำเร็จ เมื่อทุกคนถูกปล่อยตัว เธอจึงต้องการใช้บันทึกเสียงของหัวหน้าแบ๊คที่สารภาพว่าถูกจุนซูบังคับ แต่อ๊กคยองอีได้แอบลบบันทึกเสียงนั้นทิ้งไปก่อนหน้านั้นแล้ว ตอนนี้ท่านประธานยุนรู้แล้วว่าคูจาซุกและประธานชอนร่วมมือกันเพื่อฮุบบริษัทของเขา ยอลชันรับปากที่จะเป็นหุ่นเชิดให้ท่านประธานทำตามแผนต่อไป ท่านประธานจึงสั่งให้คูจาซุกใส่ชื่อยอลชันเพื่อประเมินตำแหน่งกรรมการผู้จัดการอีกครั้ง
ในที่ประชุมคณะกรรมการประเมินการชิงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ คูจาซุกพยายามโน้มน้าวในที่ประชุมเพื่อให้ทุกคนไม่ยอมรับยอลชัน โดยเสนอให้เรียกผู้ร่วมงานมาพูดคุย ซึ่งก็คืออีมันชิก

พนักงานฝึกหัดทุกคนไม่ได้มาทำงานจนกว่าผลคะแนนการประเมินจะออกภายในสองสัปดาห์ ในที่ทำงานจึงรู้สึกเงียบเหงาเหมือนขาดอะไรไป โอดึงกึนจึงส่งข้อความเพื่อนัดพบพวกเขา ในขณะที่อีมันชิก อีแทลี และจูยุนซู ชวนกันไปร้านกาแฟแห่งหนึ่ง


จุนซูนัดมันชิกมากินอาหารและบอกให้เขาพูดอะไรก็ได้เพื่อให้ยอลชันโดนไล่ออก คูจาซุกมาดักรอมันชิกขณะที่ออกจากร้านอาหาร เธอขู่มันชิกด้วยเทปเสียงตอนที่เขารับปากจะเป็นสายให้จุนซูว่าและโค่นยอลชัน เธอยังพูดทิ้งท้ายอีกว่าอีแทลีไม่ผ่านการประเมิน และเธอคงอยากเป็นพนักงานประจำ มันชิกรู้สึกเป็นห่วงทั้งยอลชันและอีแทลี


จูยุนซูและอีแทลีมาทำงานตามปกติ ทั้งที่ควรรอฟังผลการประเมินอยู่ที่บ้าน แต่พวกเขาให้เหตุผลว่ารักบริษัทและอยากมาช่วยงานบ้าง ขณะที่ทุกคนรวมทั้งยอลชันเพิ่งว่า อีมันชิกกำลังถูกคณะกรรมการสัมภาษณ์ในฐานะเพื่อนร่วมงานของยอลชัน

สำหรับการประเมินตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เมื่อมีการขุดคุ้ยข่าวการตายของคุณลุงเจ้าของสูตรซุปข้าว มันชิกออกรับว่าไม่ใช่ความผิดของยอลชัน และบริษัทองกลใช้เงินเพื่อปกปิดเรื่องนี้ เขายังประกาศลั่นในที่ประชุมอีกว่า ห้ามใครแตะต้องยอลชันเด็ดขาด ขณะที่ยอลชันยืนฟังอยู่หน้าห้อง

หลังจากที่อ๊กคยองอีได้อธิบายทุกอย่างให้นัมกุงจุนซูฟังทั้งหมดแล้ว มันชิกจึงบอกให้จุนซูรู้ว่าคนที่ควรกำจัดไม่ใช่ยอลชันแต่เป็นคูจาซูก จุนซูสงสัยว่าอ๊กคยองอีเป็นใครกันแน่ มันชิกยังคงคิดต่อไปว่าคูจาซุกต้องมีแผนอื่นอีกแน่ๆ


มันชิกส่งข้อความบอกทุกคนในทีมว่า หากมีคนแปลกหน้าเข้ามาหรือเกิดเรื่องอันตรายใดๆ ขอให้รีบบอกเขาทันที คูจาซุกพยายามชวนทักจองอึนให้เป็นพวก แต่เธอไม่ร่วมมือด้วย จุนซูบอกอันซังจงว่าคูจาซุกถือหุ้นเป็นอันดับสองและจะชิงตำแหน่งประธานบริษัท เขาจึงคิดจะทำอะไรบางอย่าง

ขณะที่มันชิกกำลังช่วยยอลชันย้ายออกจากบ้านพักของท่านประธานเพื่อไปอยู่ที่ใหม่ เขาสังเกตเห็นรถเก๋งสีดำจอดซุ่มดูอยู่ มันชิกขออาศัยอยู่กับยอลชัน ในคืนนั้นเขาบอกยอลชันว่าไม่ต้องยกโทษให้เขาอีก หากเขาทำอะไรให้ผิดหวัง ตื่นมายอลชันไม่เห็นมันชิก นอกจากโน้ตบอกว่าขอยืมรถ มันชิกตั้งใจว่าจะเป็นคนปกป้องยอลชัน ขณะที่กำลังขับรถอยู่นั้น มันชิกถูกรถเก๋งสีดำคันนั้นสกัดไว้จนต้องหยุดรถและถูกจับตัวไปมัดไว้ในที่โกดังแห่งหนึ่ง

ยอลชันไม่มีสมาธิในการสัมภาษณ์วันนี้ หลังจากที่ได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจากของมันชิก ทำให้เขาต้องหุนหันออกไปจากห้องสัมภาษณ์ อีแทลีรู้สึกเป็นห่วงพ่อจึงโทรถามนัมกุงจุนซู เพราะไม่สามารถติดต่อยอลชันได้ อ๊กคยองอีผ่านมาได้ยิน จึงอาสาขับรถพาจุนซูและอีแทลีออกตามหา จุนซูโทรบอกยอลชันว่าตำแหน่งมือถือของมันชิกอยู่ที่โกดังแห่งหนึ่งในโพซอง ทำให้อ๊กคยองอีเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม ยอลชันไปถึงก่อนและมีเรื่องชกต่อยกับคนคุมที่นั่น เขาบุกเข้าไปช่วยมันชิก ทั้งสองหันหลังชนกันเพื่อจะต่อสู้กับคนอีกนับสิบ