ทงแบค (ยูซึงโฮ) ชายผู้มีพลังพิเศษสามารถอ่านความทรงจำของคนได้โดยการสัมผัสตัว
เขาบอกเรื่องนี้ต่อสาธารณชน จนทางการต้องทำการทดสอบและยืนยันว่า เขาสามารถอ่านความทรงจำได้จริงๆ
ทงแบคได้ทำงานในหน่วยสืบสวนภาค แต่ด้วยความที่เป็นคนอารมณ์ร้อน และเมื่ออ่านความจำของผู้ต้องสงสัยทำให้เขาเดือดทนไม่ไหว ทำร้ายผู้ต้องสงสัยอยู่เป็นประจำ ทำให้เขาถูกย้ายมาเป็นสายสืบนครบาล
แต่ก็ยังไม่วาย ทงแบคยังคงก่อเรื่องทำร้ายผู้ต้องหาอยู่ และเคราะห์ซ้ำกรรมซัด นักสิทธิมนุษยชนออกมาบอกว่า
เขาเป็นคนที่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นโดยการล้วงความลับของผู้อื่นโดยไม่มีการยินยอม เรื่องนี้ทำให้ผู้คนเริ่มออกมาเห็นด้วยและเริ่มประท้วง แต่ถึงอย่างไร ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลา ทำให้เขายังเป็นที่ชื่นชอบและมีแฟนคลับส่งจดหมายมาที่สถานีตำรวจอย่างไม่ขาดสาย
ฮันซอนมี (อีเซยอง) ผู้หญิงที่ได้เป็นผู้กำกับอาวุโสที่อายุน้อยทำลายสถิติคนเก่าไปได้ถึงสองปี
เธอเป็นคนมีไหวพริบและช่างสังเกตเป็นเยี่ยม และสามารถตามสืบ ตามจับคนร้ายได้หลายต่อหลายครั้ง
…
จากครั้งล่าสุดที่ทงแบคทำร้ายผู้ต้องหา และคราวนี้เขาอาจถูกให้ออกจากการเป็นตำรวจ
แต่เนื่องจากความสามารถเขายังเป็นประโยชน์ ทางผู้บัญชาการจึงให้แค่พักงานไม่กี่เดือนเท่านั้น
…
ฮันซอนมีกำลังตามคดีฆาตกรรมและเธอคิดว่า นี่ต้องเป็นฆาตกรรมต่อเนื่องแน่ๆ เธอจึงไปขอผู้บัญชาการทำคดีนี้
แต่เธอถูกเน้นย้ำมาว่า ห้ามให้ทงแบคมาทำคดีนี้เด็ดขาด
…
ลูกสาวของป้าแม่บ้านในสถานีตำรวจ ไม่กลับบ้านทั้งคืน เธอจึงไปขอร้องทงแบคให้ช่วยตามหา
แต่ทงแบคถูกพักงานอยู่จึงไม่รับปาก แต่ทงแบคเห็นความทรงจำของป้า แล้วรู้สึกสงสารมากจึงแอบตามสืบ
ซึ่งหัวหน้าเขาก็รู้ว่าทงแบคไม่มีทางอยู่เฉยแน่ ก็เลยพาคู่หูไปช่วยทงแบคด้วย
ทงแบครู้ที่อยู่ของป้าแม่บ้านจากความทรงจำตอนที่ป้ามาแตะตัว เขากับคู่หูจึงไปทางนั้น
แต่ระหว่างทางเห็นหน่วยสืบสวนภาคกำลังสอบถามคนแถวนั้น
ทงแบคจึงลงไปพูดจายั่วยุ ให้เกิดการชกต่อย
แต่ทุกครั้งที่ฝ่ายตรงข้ามต่อยโดยตัว ทงแบคจะได้ความทรงจำของอีกฝ่ายมา
ทำให้ทงแบคได้ข้อมูลที่หน่วยสืบสวนภาคมา
ทงแบคไปยัง รพ. ซึ่งเหยื่อคนล่าสุดพักรักษาตัวอยู่ในอาการโคม่า เพื่อไปล้วงความทรงจำ
แต่การจะล้วงความทรงจำจากคนหมดสตินั้นจะต้องใช้พลังมาก ซึ่งกว่าเขาจะได้ภาพมาก็ถึงกับเป็นลมล้มพับไป
…
ทงแบคฟื้นขึ้นมาและโทรบอกหน่วยสืบสวนภาคถึงภาพที่เห็น เขาร้อนรนรีบออกจาก รพ.
แต่ระหว่างที่เดินออกไป เขาเดินชนใหล่กับชายคนหนึ่ง แล้วภาพความทรงจำที่เห็นคือ เหยื่อถูกทำร้าย
ทงแบคหันไปมองแล้วชายคนนั้นก็วิ่งหนี ทงแบคแน่ใจว่าเป็นคนร้ายแน่ จึงให้หัวหน้ากับคู่หูช่วยกันวิ่งตามจับ
ผู้ต้องสงสัยวิ่งไปในกลุ่มฝูงชน ทงแบคตัดสินใจอ่านความจำของทุกคนที่เดินผ่าน เพื่อดูภาพว่าผู้ต้องสงสัยวิ่งไปทางไหน
จนสุดท้ายก็จับได้ แต่กลับไม่ใช่คนร้ายตัวจริง เป็นแค่คนที่เคยทุบตีเหยื่อ แต่ได้เบาะแสมาคือ ไอ้ค้อน
…
โอยอนทัค ประธานบริษัทแฮมเมอร์เมเนจเม้นท์ นั่งดื่มด่ำกับกาแฟยามค่ำคืนอยู่ภายนอกร้านกาแฟ เขาเป็นโมเดลลิ่งที่หลอกหญิงสาวไปข่มขืน
ทงแบคเดินมานั่งร่วมโต๊ะด้วย แล้วพูดถึงเรื่องที่ยอนทัคก่อไว้ แต่เขาก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังพูดยั่วโมโหเพราะรู้ว่า
ถ้าทงแบคคุมอารมณ์ไม่ได้ก็จะถูกให้ออกจากงาน แล้วเขายังตะโกนบอกคนแถวนั้นว่า
ตำรวจพลังจิตอยู่ที่นี่ ทำให้ผู้คนบริเวณนั้นเข้ามารุมถ่ายรูปทงแบค
ลูกน้องของยอนทัคที่กำลังถือค้อนเตรียมลงมือฆ่าเหยื่อ โทรเข้ามาหายอนทัค
ทงแบคเห็นจากกระจกที่สะท้อนว่ามีสายเข้า ยอนทัครับสายแต่ทงแบคทนไม่ไหว กระโดดเตะก้านคอ
ผู้คนถ่ายรูปที่ทงแบคกระโดดเตะไว้ได้พอดี
