มกซลฮี(#คิมโซฮยอน)มีความสามารถพิเศษตั้งแต่เกิดโดยรู้ว่าใครกำลังพูดโกหก เธอใช้ความสามารถนี้ในการทำมาหาเลี้ยงชีพโดยมีฉายาว่า”นักล่าคนโกหก” และมีคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวว่า ”ถ้าฉันบอกว่าใช่...ก็ต้องใช่”
เมื่อห้าปีก่อนแก๊งนักเลงดูม๊กว่าจ้างเธอเพื่อให้จับผิดลูกน้องที่โกหกและทรยศ ทำให้ลูกน้องคนนั้นแค้นใจและตามล่าเธอ มกซลฮีจึงต้องรีบหนีและขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับโซล
คิมโดฮา(#มินฮยอน) ชายหนุ่มที่มีบุคลิกเงียบขรึมกำลังเดินทางเข้าโซล เขาอยู่บนรถโดยสารคันเดียวกับมกซลฮี มกซลฮีเห็นคิมโดฮากำลังถูกพี่ชายของอดีตคนรักทำร้ายร่างกายเพราะความเข้าใจผิด เธอจึงช่วยเขาทั้งที่ไม่รู้จักกันเพราะรู้ว่าเขาไม่ได้พูดโกหก
ห้าปีต่อมา.. มกซลฮียังคงรับจ้างจับผิดคนโกหกและเพิ่มค่างานมากขึ้นในแต่ละปี คิมโดฮาเป็นโปรดิวเซอร์เพลงฝีมือดีและคว้ารางวัลยอดเยี่ยม แต่เขาใช้ชีวิตเพียงลำพังอย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพราะปมในอดีต เขาปกปิดตัวเองด้วยการใส่แมสก์และเสื้อสวมฮู้ดเวลาที่ต้องออกไปข้างนอก คิมโดฮาไม่ได้ไปร่วมงานรับรางวัลยอดเยี่ยม ชีอนซึ่งเป็นนักร้องดังที่เขาแต่งเพลงให้จึงเป็นคนรับรางวัลแทน
ประธานโจดึกชาน(เจ้าของเจเอ็นเตอร์เทนเมนท์) และนักร้องสาวชีอน เป็นเสมือนพี่น้องและเพื่อนสนิทของคิมโดฮาที่ฝ่าฟันความลำบากมาด้วยกันจนถึงจุดโด่งดังที่สุดตอนนี้ หลังจากงานประกาศรางวัล ชีอนไปหาคิมโดฮาที่บ้านแต่ไม่พ้นสายตาปาปารัสซี่ จึงทำให้เป็นข่าวฉาวระหว่างเธอกับคิมโดฮา ประธานโจต้องการให้คิมโดฮาย้ายไปอยู่บ้านของเขาที่ยอนซอสักพักเพื่อหลบนักข่าว
มกซลฮีเปิดสำนักไพ่ทาโรต์ที่ยอนซอและรับจ้างจับผิดคนโดกหก โดยเปิดเป็นคาเฟ่ที่ด้านหน้าและมีผู้ช่วยหนึ่งคน คิมโดฮาสวมเสือฮู้ดปิดแมสก์และเดินทางไปสำรวจหมู่บ้านที่ยอนซอก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปอยู่ แต่ในขณะนั้นมีการประกาศจับฆาตกรโรคจิตลวนลามทางเพศซึ่งแต่งตัวเหมือนกับคิมโดฮา ในคืนงานประชุมสหกรณ์ร้านค้าที่หมู่บ้านยอนซอ คิมโดฮาถูกชาวบ้านจับได้ขณะที่เดินสำรวจหมู่บ้าน เพราะพวกเขาเข้าใจผิดว่าคิมโดฮาคือคนร้าย แต่มกซลฮียืนกรานว่าไม่ใช่และคำพูดที่มั่นใจของเธอทำให้คิมโดฮานึกถึงผู้หญิงบนรถโดยสารเมื่อห้าปีก่อน
