ชื่อเรื่องย่อหลัก

อดีตอัยการชอนจีฮุน(นัมกุงมิน)ที่ผันตัวมาเป็นทนายและแต่งตั้งซามูจังเป็นผู้จัดการส่วนตัวโดยใช้ร้านซักรีดของเขาเป็นสำนักงานทนายความ พวกเขาไปที่สำนักงานปล่อยเงินกู้นอกระบบเพื่อช่วยลูกความของเขาจนได้รับเงินคืน ทนายชอนคิดค่าจ้างเพียงหนึ่งพันวอนเท่านั้น ทนายชอนพบกับผู้ช่วยอัยการแบคมารี(คิมจีอึน)ที่กำลังไปยึดทรัพย์ที่นั่นและโต้เถียงข้อกฎหมายจนแบคมารีต้องกลับไป

ถึงแม้ว่าอีมยองโฮเคยมีประวัติอาชญากรรมล้วงกระเป๋ามาแล้วหลายครั้งและตั้งใจจะทำงานสุจริตเพื่อโซมีลูกสาวหกขวบที่อยู่ในโรงพยาบาล มยองโฮใช้หินทุบมือตัวเองและสาบานกับภรรยาว่าจะเลิกล้วงกระเป๋า แต่ครั้งนี้ไม่มีใครเชื่อหลังจากที่เขาถูกใส่ร้ายด้วยคดีเดิมจนต้องไปอยู่ในเรือนจำ ภรรยาของเขาขอให้ทนายชอนช่วยสามีของเธอ ทนายชอนและซามูจังไปเยี่ยมโซมีที่โรงพยาบาลและสัญญาว่าจะพาพ่อของเธอกลับมาหาให้เร็วที่สุด ซามูจังรับปากกับภรรยาของอีมยองโฮว่าจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้หนูน้อยโซมีทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีเงิน

ทนายชอนไปหาอีมยองโฮที่เรือนจำจึงรู้ว่าแบคมารีขอให้เมยองโฮเขียนจดหมายขอโทษเพื่อจะขอลดหย่อนผ่อนโทษ ทนายชอนอยากจะช่วยมยองโฮอย่างที่สัญญากับโซมีเอาไว้ แต่เขาไม่แน่ใจว่ามยองโฮทำผิดจริงหรือไม่จนกระทั่งเขาสาบานด้วยชีวิตของลูกสาว

แบคมารีไม่พอใจเมื่อรู้ว่าคดีของมยองโฮจะใช้ระบบลูกขุนทั้งที่เขาเขียนจดหมายสารภาพผิดและขอโทษเพื่อขอลดหย่อนโทษแล้ว จนกระทั่งทนายชอนไปพบอัยการนาเยจินซึ่งเป็นรุ่นพี่และหัวหน้าของแบคมารี ทนายชอนฉีกจดหมายขอโทษของมยองโฮเพราะต้องการใช้ระบบลูกขุนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของเขา

แบคมารีและทนายชอนต่างก็ถกเถียงเพราะมีความเห็นและวิธีการที่แตกต่างกัน แบคมารีเชื่อว่ามยองโฮมีความผิดในขณะที่ทนายชอนเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์ทนายชอนแนะนำแบคมารีให้อ่านหนังสือกฎหมายหน้าที่108 ซึ่งเป็นหนังสือที่ซอมินฮยอกส่งมาให้เธอ ทนายชอนและแบคมารีจะต้องต่อสู้กันในศาล

เมื่อถึงวันพิจารณาคดี ทนายชอนกับอัยการแบคต่างเตรียมตัวไปเป็นอย่างดีทั้งคู่
ในขณะที่จำเลยมยองโฮ กำลังท้อแท้และสิ้นหวัง ทนายชอนขอให้เชื่อใจเขาว่าจะพลิกสถานการณ์ได้ ทนายชอนขอยื่นหลักฐานใหม่ ซึ่งอัยการแบคขอค้านเพราะไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อนในช่วงเตรียมคดี ทนายชอนอ้างว่าเป็นสถานการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ จึงขอให้อัยการแบคดูหลักฐานก่อน เมื่ออัยการแบคดูหลักฐานแล้วถึงกับอึ้งกับหลักฐานของทนายชอน