ชื่อเรื่องย่อหลัก


ดันโอไปที่เรือนร้างตามจดหมายปริศนาที่ได้รับ โดยไม่รู้ว่าเป็นแผนการของสามบัณฑิตที่จะพิสูจน์ว่านางกำลังตามหาอีซอลจริงหรือไม่ ดันโอยืนกรานว่าจะตามหาอีซอลต่อไป เพราะเหตุผลส่วนตัวที่จะไม่ยอมเสียสวนบุปผาไปอย่างเด็ดขาด สามบัณฑิตจึงตัดสินใจที่จะช่วยนาง 

ฝ่าบาททรงรู้ว่าทารกน้อยไม่ใช่โอรสที่แท้จริงของพระองค์ แต่พระองค์ไม่ทรงลงโทษสนมพัคเพราะทายาทคือสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการเพื่อปิดปากพวกราชสำนัก และเพื่อโชซอนที่จะรุ่งโรจน์ตราบนานเท่านาน 

ยูฮาต่อว่าคังซานที่แข็งกระด้างกับดันโอเกินไป ขณะที่คังซานก็ต่อว่ายูฮาที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกับนาง ยูฮาจึงบอกว่าเขารักดันโอ ชียอลแอบเดินไปที่เรือนเล็กของสวนบุปผาและเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง เขาตกใจกลัวเพราะคิดว่านางคือผี ยุกโฮเตือนว่าอย่าเข้าใกล้เรือนหลังนั้นอีก เพราะที่นั่นเป็นเสมือนศาลบรรพบุรุษซึ่งเก็บป้ายอนุสรณ์ของพ่อและพี่สาวที่ตายไปแล้วของดันโอ 

ชียอลขอนอนที่ห้องของคังซานเพราะกลัวผี คังซานจึงออกไปดื่มที่หอนางโลมบูยองกัก เขาได้ช่วยบันยาไว้จากลูกค้าที่ก้าวร้าวและใช้กำลัง บันยาเต็มใจที่จะให้บริการคังซาน แต่เขามิได้ทำอะไรนอกจากปลดปิ่นปักผมของนางเพื่อเป็นที่ระลึกในคืนแรกเท่านั้น

เมื่อชินวอนโฮรู้ข่าวว่าซังกุงยุนผูกคอตาย เขาจึงเริ่มแน่ใจว่าทารกน้อยไม่ใช่โอรสของฝ่าบาท แต่เขาต้องการยืนยันให้แน่ใจ โดยให้คนไปสืบว่าญาติของสนมพัคคนใดเพิ่งรับบุตรสาวบุญธรรมาเลี้ยงบ้าง (ทารกหญิงของสนมพัค) ดันโออยากจะงานวันเกิดให้กับคังซานเพื่อฉลองที่เขาสอบรอบแรกได้ เพราะแขกทุกคนที่มาพักเปรียบเสมือนครอบครัวของนาง แต่คังซานไม่ยอมบอกว่าเกิดวันใดและไม่สนใจเรื่องครอบครัว ยูฮารีบกลับไปเยี่ยมแม่ที่อาการทรุดหนัก ถึงแม้ว่านางไม่ใช่แม่แท้ๆก็ตามเพราะเขาเป็นเพียงลูกนอกสมรส แต่นางได้แต่เรียกหากิลจุนลูกชายของตนเอง

ดันโอต้องการตามหาอ๊กบุนซึ่งเป็นคนในตระกูลที่เคยรับใช้องค์ชายกึมรยองผู้ล่วงลับซึ่งสนิทกับองค์รัชทายาทที่ถูกปลด ซึ่งนางอาจจะกลายเป็นทาสไปแล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาเบาะแสจากทะเบียนที่สำนักบริหารจัดการทาสของรัฐ ยูฮาไปที่บ่อนทูจอนเพื่อตามกิลจุนให้รีบกลับไปดูใจแม่ แต่เขากลับถูกกิลจุนเทเหล้ารดหัวและพูดจาดูถูก ฮวารยองสะเทือนใจกับภาพที่เห็นและรู้สึกเห็นใจยูฮา นางจึงช่วยเช็ดเสื้อผ้าให้เขาก่อนที่จะกลับออกไป หลังจากที่ฮวารยองรู้ว่ายูฮาคือลูกชายของใต้เท้าจองยุน นางไม่คิดว่าเขาจะอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้

ขณะที่ดันโอกำลังค้นหารายชื่อทาส คังซานช่วยถือตะเกียงให้และแอบมองนางพร้อมกับเผลอยิ้มอย่างอ่อนโยน พวกเขาต่างก็รู้สึกหวั่นไหว ชียอลสังเกตเห็นและกลับมาเล่าให้ยูฮาฟัง ดันโอไปพบอ๊กบุนแต่ไม่ได้ข้อมูลอะไร นอกจากบอกว่าฮวารยองเคยเป็นนางกำนัลขององค์ชายกึมรยองและรู้มาก แต่นางออกจากเรือนนั้นไปก่อนที่จะเกิดเหตุ

ยูฮาและกลุ่มเพื่อนบัณฑิตคาดหวังว่าจะรวมพลังเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก พวกเขาจึงช่วยกันแปล“บันทึกลับแห่งซัมฮัน”เป็นภาษาพื้นถิ่น เพื่อให้ไพร่ฟ้าสามารถอ่านและเข้าใจได้ง่าย 

ฮวารยองเตือนดันโอให้หยุดการตามหาอีซอล เพราะตอนนี้พลคุ้มกันของเขาอยู่ใกล้ตัวซึ่งสักวันหนึ่งนางอาจจะไม่ปลอดภัย เมื่อดันโอบอกเหตุผลที่ไม่ยอมเสียสวนบุปผาเพราะมันขึ้นอยู่กับชีวิตของคนคนหนึ่ง ฮวารยองจึงบอกว่ามีสมบัติล้ำค่าที่มีรูปมังกรสลักอยู่ ซึ่งองค์รัชทายาททรงทิ้งไว้ให้พระราชนัดดา เพราะของชิ้นนี้จะส่งต่อให้ทายาทสายตรงที่จะได้ขึ้นครองบัลลังก์เท่านั้น

อดีตขันทีโนซองกิลออกไปหาคังซานตามจดหมายนัดพบ คังซานต้องการให้โนซองกิลออกไปจากฮันยางและเลือกเข้าข้างให้ถูกหากต้องการมีชีวิตอยู่ แต่โนซองกิลบอกว่าตอนนี้ดันโอก็เข้าข้างฝ่ายนั้นไปแล้วและไม่ควรไว้ชีวิตนางที่จะทำให้เดือดร้อนในภายหลัง โนซองกิลบอกว่าตนเองมีหน้าที่ยืนยันตัวตนของอีซอล แต่หากเขาไม่ทำให้อีซอลถูกประหารฐานเป็นกบฏ เขาก็จะทำให้อีซอลได้ขึ้นครองบัลลังก์ เพราะเขาคนเดียวเท่านั้นที่เคยเห็นหน้าอีซอลตอนโต คังซานขู่โนซองกิลให้อยู่ห่างจากดันโอและห้ามพูดถึงนางอีก ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่ไว้ชีวิต

ผู้พิพากษาจางแทฮวานำกำลังทหารตามโนซองกิลไปที่จุดนัดพบ เขาเห็นศพทหารที่มาก่อนหน้านี้จึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของพลคุ้มกัน โนซองกิลแสร้งบอกว่าตนเองดื่มจนเมาหลับไปจึงไม่รู้ว่ามีใครเข้ามา ขณะที่คังซานถูกยิงด้วยลูกธนูจนบาดเจ็บและหลบหนีไป 

คังซานบาดเจ็บสาหัสและเสียเลือดมาก แต่เสแสร้งทำตัวปกติเมื่อพบดันโอระหว่างทางที่เพิ่งกลับจากบูยองกัก เพราะไม่ต้องการให้นางรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา ดันโอบอกกับเขาว่าฮวารยองเป็นใครและของล้ำค่ารูปมังกรสลักก็อยู่ที่อีซอล คังซานหมดสติไประหว่างทางที่กำลังกลับสวนบุปผาพร้อมกับดันโอ ดันโอนำหยกประจำตัวเป็นค่าจ้างคนแบกเกี้ยวเพื่อพาคังซานไปหาหมอ ผู้พิพากษาจางที่กำลังตามล่าคังซานสั่งให้หยุดเกี้ยวเพื่อตรวจค้น ขณะที่ชายแก่คนหนึ่งนำของที่ชียอลฝากไว้ไปให้และเรียกเขาว่าฝ่าบาท