ชื่อเรื่องย่อหลัก
พัคจินออนได้รับการผ่าตัดแต่อาการของเขายังโคม่าเพราะอวัยวะเสียหายหนักมาก พี่น้องฝาแฝดกูซอกแทและกูยองแทไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นคนแทงชิมอูซอบและวังมินโฮ คังฮานาจึงตั้งข้อหาพวกเขาในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดซึ่งจะได้รับโทษเช่นเดียวกัน ผอ.จางซองชอลเหลือดวงตาเพียงข้างเดียวและไปเยี่ยมประธานแบคที่เรือนจำโดยไม่สนใจหากเธอจะเปิดเผยทุกอย่างเกี่ยวกับเขาเพราะต้องการจบความสัมพันธ์กับเธอเสียที ประธานแบคขู่ว่าหากวันใดผอ.จางและคิมโดกีเข้ามาอยู่ในคุก เธอก็จะกำจัดพวกเขาทันที พัคจินออนฟื้นจากอาการโคม่า ผอ.จางตัดสินใจยุติทีมสายรุ้งและพร้อมที่จะให้ปากคำในอีกไม่นาน ผู้จัดการอี(ยูดาต้า)ให้ปากคำกับคังฮานาว่าผอ.จางและคิมโดกีร่วมมือกับประธานแบคจับเขาขังไว้ในคุกใต้ดินซึ่งไม่ต่างกับกรงสัตว์และได้กินเพียงขนมปังกรอบกับวิตามินเท่านั้นแต่เขาไม่รู้ว่าคุกแห่งนั้นอยู่ที่ไหน โดกีและคังฮานาไปเยี่ยมชเวจงซุกที่ตอนนี้อยู่ศูนย์พยาบาล เธอยังคงหวาดระแวงทุกครั้งที่เห็นผู้หญิงวัยกลางคน ฮานาเข้าไปคุยกับเธอซึ่งจำอะไรแทบไม่ได้ เมื่อเห็นรูปของประธานแบค ชเวจงซุกบอกเพียงว่าประธานแบคเป็นเจ้าของโรงแรมที่ผอ.จางหลอกให้เธอไปพักเพราะขายประกันได้ยอดสูงสุด เธอจำไม่ได้ว่าโรงแรมแห่งนั้นอยู่ที่ไหนนอกจากอาหารประจำวันที่กินเข้าไป ทันใดนั้นเองเธอก็มีอาการหวาดกลัวและคุกเข่าขอร้องฮานาเมื่อได้ยินคำว่าคุก โดกีพาฮานาไปดูคุกใต้ดินที่สำนักงานของประธานแบคและสารภาพว่าคนร้ายที่ถูกเขาจับได้ จะถูกพามาขังที่นี่เพื่อให้ได้รับความทุกข์ทรมานและถูกปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรมเพื่อไม่ให้ออกไปกระทำความผิดได้อีก โดกียอมรับผลการกระทำของตนเองทุกอย่างโดยไม่เกี่ยวข้องกับเพื่อนร่วมงานเพราะพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดนอกจากแค่ช่วยเหลือเท่านั้น แต่ฮานาขอให้การสืบสวนคดีนี้เสร็จสิ้นก่อน เธอจึงจะขอสอบปากคำคิมโดกีอีกครั้ง ทีมสายรุ้งทุกคนรู้ดีว่าในไม่ช้าพวกเขาจะต้องถูกสอบสวนและได้รับโทษ โกอึนจึงทยอยลบไฟล์ต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ที่อาจเป็นหลักฐานมัดตัวได้ อย่างน้อยก็อาจจะได้รับการลดโทษ นักโทษไซโคปาธโอชอลยองฆาตกรต่อเนื่องเขียนบันทึกประจำวันและสารภาพว่าตนเองคือฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าเด็กสาววัยรุ่นแต่คิมชอลจินคือแพะรับบาปที่ติดคุก 20 ปีและได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว ผอ.จางไปไปหาโอชอลยองที่เรือนจำซึ่งบอกว่าเขาเขียนบันทึกนั้นเพื่อแก้เหงาและการฆ่าคนก็คือการแสดงบทบาทของตัวเองเพราะไม่มีใครเข้าใจเขา เมื่อคิมชอลจินรู้ความจริงว่าตนเองคือแพะรับบาปเมื่อยี่สิบปีก่อนซึ่งตอนนี้คดีหมดอายุความแล้ว เขาจึงใช้บริการแท็กซี่วีไอพีสายรุ้งเพราะต้องการให้โอชอลยองได้รับโทษและชดใช้ที่ทำให้เขาสูญเสียครอบครัวและอิสรภาพ ถึงแม้ว่าผอ.จางต้องการปฏิเสธเคสนี้เพราะได้ปิดกิจการทีมสายรุ้งไปแล้ว แต่โดกีขอรับทำเคสนี้เป็นครั้งสุดท้าย คิมชอลจินเล่าให้โดกีฟังว่าเขาถูกใส่ร้ายเมื่อยี่สิบปีก่อนในข้อหาฆาตกรรมวัยรุ่นหญิง เขาถูกเจ้าหน้าที่ซ้อมและบีบบังคับให้เขียนคำรับสารภาพ ศาลจึงตัดสินให้เขาจำคุกยี่สิบปี ถึงแม้ว่าเขาพยายามบอกศาลและใครๆ ว่าตนเองบริสุทธิ์แต่ก็ไม่มีใครยอมฟังเลย ต่อมาภรรยาได้พาลูกสาวออกไปจากชีวิตของเขา เขาต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวหลังพ้นโทษในฐานะอดีตนักโทษที่อยู่อย่างหวาดระแวงและสังคมรังเกียจ ถึงแม้โดกีจะบอกว่าตอนนี้โอชอลยองอยู่ในคุกแล้วและอาจต้องอยู่ที่นั่นไปตลอดชีวิต แต่คิมชอลจินยังคงยืนกรานว่าต้องการแก้แค้นแต่ไม่ต้องการให้โอชอลยองตาย เพียงแต่ต้องการให้เขาสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดไปบ้างและมาขอโทษ ผอ.จางไม่คิดว่าโอชอลยองจะสำนึกผิดหรือขอโทษใครได้ เพราะเขาเป็นไซโคปาธที่ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดของใคร แต่โดกีมั่นใจว่าเขาจะทำให้ได้ คังฮานาต้องการให้โอชอลยองยืนยันว่าฆ่าเหยื่อจริง แต่เขาบอกว่าสิ่งที่จะยืนยันได้ก็คือคำพูดสุดท้ายของเหยื่อซึ่งลูกชายของเธอเท่านั้นที่จะรู้คำตอบ แม้ว่าคังฮานาจะหนักใจหากต้องถามโดกีซึ่งยังไม่รู้ว่าโอชอลยองคือคนที่ฆ่าแม่ของเขา แต่เธอก็ตัดสินใจบอกความจริงและต้องการคำยืนยัน โดกีเข้าใจผิดมาตลอดว่านัมกยูจองคือฆาตกรจนกระทั่งโอชอลยองทวนคำพูดสุดท้ายของแม่ที่คุยโทรศัพท์กับเขาก่อนจะถูกฆ่า