ชื่อเรื่องย่อหลัก

นาโอมิยังไม่ตาย คังกวอนจูพยายามปั๊มหัวใจเพื่อให้ฟื้น ส่วนโดคังอูอาการกำเริบจนต้องออกจากตรงนั้น เพราะเขาอยากฆ่าคนมาก
คังกวอนจูเรียกทีมให้มาช่วยและออกจากที่เกิดเหตุ ปล่อยให้ คาเนกิ ปั๊มหัวใจต่อ แต่พอคาเนกิอยู่ตามลำพัง ก็ปล่อยให้นาโอมิตายไป

ผู้กองนา ไปหาโดคังอูที่นั่งอยู่คนเดียวนอกอาคาร แต่โดคังอูกลับขอลาออกจากตำรวจ ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันพักหนึ่ง และสุดท้ายก็ห้ามโดคังอูไม่ได้
เขาไม่อยากทำร้ายพวกเดียวกันหรือทำให้เรื่องเสีย เขาจะจับคนร้ายด้วยวิธีของตัวเอง

ชเวดูชอล คนมีชื่อเสียงที่ทำงานจิตอาสาฟ้องร้องทีมสืบสวนพิเศษ ข้อหาทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยการเผยแพร่ว่า เขาเป็นสมาชิกเว็บออกชั่นฟาเบร
และทางเบื้องบนก็ไม่เข้าข้างทีมสืบสวนด้วย ทำให้ทีมโกลเด้นไทม์ทำงานยากขึ้นไปอีก

โดคังอูขึ้นไปบนดาดฟ้าของห้องพัก พยายามใช้ความสามารถนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาคิดว่า คาเนกิ มาซายูกิ นี่แหละคือตัวต้นเหตุ

คาเนกิ เดินเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ในห้องนั้นมีอวัยวะมนุษย์ที่แยกส่วน ห้อยลงจากเพดาน เขาพึมพัมว่า เหลือแต่หูก็ครบสมบูรณ์ และหูคู่ที่บริสุทธิ์นั้นน่าจะเป็นหูใคร

ภาพย้อนเหตุการณ์
หลังจากนาโอมิตาย คนร้ายก็เอาวีดีโอมาให้ คาเนกิ
เขาคือลูกน้องของคาเนกิ และใส่เสื้อเหลืองปะปนอยู่ในกลุ่มแฟนคลับของคาเนกิ
คาเนกิ ฆ่าโดยไม่ได้ลงมือเอง ทำให้ไม่มีหลักฐานถึงตัวเขาเลย

ทางทีมของคังกวอนจูสืบข้อมูลเพิ่มได้ว่า คนขับรถของประธานโอพิลซู ไปรับของที่เหมือนจะเป็นแบล็คคอลเลคชั่น จึงให้ผู้กองนาไปที่บ้านของคนขับรถ
เมื่อผู้กองนาไปถาม ก็ได้ความว่า กล่องนั้นเป็นมือของตำรวจ สน.พุงซาน
ผู้กองนาไม่รีรอ รีบพาพวกไปค้นห้องของประธาน เมื่อไปค้นก็เจอกับกล่องที่ใส่มืออยู่จริงๆ

ผู้กองนาเลือดขึ้นหน้าอยากจะฆ่าประธานโอซะตรงนั้น เพราะมือนั้นคือมือของน้องชายเขานั่นเอง
ส่วนทนายของประธานโอ ได้แต่ยืนอึ้ง ไม่คิดว่าประธานจะเป็นคนซื้อชิ้นส่วนมนุษย์

ประธานโอถูกสอบสวนอยู่ในห้องสอบ เขาบอกวิธีการประมูลให้หมดเพื่อแลกกับการลดโทษ ทำให้รู้ว่า ในคลับคืนนั้น
นอกจากโคอิจิแล้ว ยังมีคนตัวใหญ่ๆคนหนึ่งอยู่ด้วย เป็นใครก็ไม่รู้
เมื่อเสร็จผู้กองนาก็สั่งงานลูกน้องแล้วแยกย้าย
คังกวอนจูบอกผู้กองนาว่า ถ้าได้ยินเสียงไฟแช็ค ให้ระวังตัวมากเป็นพิเศษ
เพราะขณะนี้ ทีมโกลเด้นไทม์ทุกคน เหมือนถูกตามล่าอยู่

ผู้กองนาไปยังคลับที่ประธานโอเป็นเจ้าของ เพื่อดูกล้องวงจรปิดหาว่า คนที่ประธานโอพูดถึงคือใครกันแน่
แต่ระหว่างที่เดินอยู่ในลานจอดรถ ก็มีเสียงไฟแช็คดังขึ้น ผู้กองนาชักปืนออกมา แต่ก็ถูกคนร้ายสวมหน้ากาก นำลวดมารัดคอ
และเพราะคนร้ายตัวใหญ่กว่ามาก ทำให้ผู้กองนาดิ้นไม่หลุด จนหมดสติและถูกนำตัวขึ้นรถตู้ไป

แต่โชคยังดีที่ผู้กองนาคอยบอกคนอื่นอยู่ตลอดว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
โดยขณะที่เขาอยู่ที่ลานจอดรถ ได้ส่งข้อความบอกโดคังอูและส่งภาพคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดให้ด้วย