บังเจซูหนีออกจากคุกได้สำเร็จ ซึ่งการหลบหนีในครั้งนี้ มีการวางแผนเอาไว้หมดแล้ว โดยบังเจซูฉีดยาบางอย่างเพื่อให้หัวใจหยุดเต้น และจะกลับมาเต้นอีกครั้งเมื่อมีการปฐมพยาบาล
บังเจซูจึงตื่นขึ้นมาบนรถพยาบาลนั่นเอง
บังเจซูเดินเข้าป่าไปยังจุดนัดพบ มีกระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่ โดคังอูตามมาจนเจอและชักปืนขู่ แต่บังเจซูไม่กลัว กลับยั่วโมโหใส่และเรียกโดคังอูว่า โคสึเกะ...
และในเวลานั้นเอง... ชายสวมหน้ากากที่เป็นผู้บงการโผล่ออกมา วิ่งเข้ามาแย่งปืนพระเอกยิงใส่ขาบังเจซะแล้วเอาเข็มฉีดยาแทงเข้าที่คอโดคังอู
จากนั้นก็เอาลวดรัดคอบังเจซูหมายจะฆ่าให้ตาย แต่บังเจซูฮึดสู้ คว้าหินมาเฉือนลวดขาด แล้วถอยหนี.. จนกระทั่งถึงหน้าผา เหลือบมองเห็นโดคังอูฟื้นขึ้นมา
บังเจซูตะโกนว่า โคสึเกะ แล้วทิ้งตัวลงน้ำเบื้องล่าง
ทีมโกล์เด้นไทม์เห็นข่าวในทีวีเรื่องบังเจซูแหกคุก ก็รีบประจำการ และไปยังที่เกิดเหตุทันที
คังกวอนจูติดต่อโดคังอูไม่ได้ เลยเดินเข้าไปในป่า ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจึงเดินตามเสียงนั้นไป แต่ไม่พบใคร แต่เธอก็ยังแน่ใจว่า เมื่อกี้ต้องมีคนอยู่แน่ๆ
โดคังอูกลับมาที่ห้องพัก นึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์... นึกสงสัยว่า ทำไมชายสวมหน้ากากถึงไม่ฆ่าตนเองแต่กลับปล่อยให้รอดกลับมา
ทางผู้กองนาพบยาเกี่ยวกับโรคประสาทตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เลยเรียกคังกวอนจูมาถามอาการป่วยของโดคังอู และถามว่าร้านหมอเถื่อนของโดคังอูอยู่ที่ไหน แต่ไม่ได้บอกคังกวอนจูเรื่องยาที่ตกอยู่
คังกวอนจูกับทีมนั่งรถตู้เพื่อไปหาโดคังอูที่บ้าน
ระหว่างทาง โดคังอูโทรเข้ามา และทำเป็นว่าเพิ่งรู้ว่า บังเจซูแหกคุก
เมื่อไปถึงบ้านโดคังอู
คังกวอนจูลงไปหาคนเดียว ให้ลูกทีมกลับไปยังศูนย์
ระหว่างที่คังกวอนจูคุยกับโดคังอู เธอจับน้ำเสียงได้ว่าโดคังอูกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ และเห็นรองเท้าโดคังอูที่วางอยู่ เลอะหญ้ากับดินเปียกๆเหมือนในป่าที่เกิดเหตุด้วย
ทำให้คังกวอนจูยิ่งสงสัยมากขึ้นอีกว่า โดคังอู ไปทำอะไรกันแน่
คังกวอนจูกลับไปทำงานที่ศูนย์แต่เหนื่อยมากเลยหลับไป ฝันถึงเสียงที่ได้ยิน มันคือเสียงไฟแช็คที่ถูกเปิดปิดอยู่เรื่อยๆ
คังกวอนจูตามเสียงนั้นไป จนเปิดประตูห้องๆหนึ่ง แต่เมื่อเปิดเข้าไปแล้วกลับเป็นลานกว้างมีหลังคา เบื้องหน้ามีซากศพของเจ้าหน้าที่ในศูนย์นอนตายเกลื่อน
ตรงกลางมีคนอยู่คนหนึ่ง ยืนขึ้น หันมา เป็นชายสวมหน้ากาก
ชายสวมหน้ากากเดินเข้ามายังคังกวอนจู แล้วค่อยๆถอดหน้ากากออก เป็น โดคังอู
คังกวอนจูคงคิดว่า โดคังอูอาจเป็นชายสวมหน้ากากที่เป็นฆาตกรเสียเอง เพราะบังเจซูก็เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้
แล้วคังกวอนจูก็ตื่นขึ้น เพราะมีคนมาปลุก
ผู้กองนาไปหาหมอเถื่อนของโดคังอู เป็นเหมือนร้านขายยาเล็กๆ
หมอเถื่อนบอกว่า โดคังอูตอนอยู่ญี่ปุ่น ต้องการยามาก ส่งไปไม่ได้ก็ต้องเอาไปให้เอง เพราะถ้าไม่ได้กินยาจะคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
และเธอยังบอกอีกว่า อาการโดคังอุในตอนนี้ ถึงขีดสุดแล้ว แต่เหมือนมีสิ่งหนึ่งที่โดคังอูกลัวมากกว่า...
เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินรหัสศูนย์
คนร้ายเข้าไปยังศูนย์สตรีต่างชาติในขณะที่มีงานกันอยู่ โดยคนร้ายเข้าไปล็อกห้องแล้วเทของเหลวบางอย่างที่พื้นทำให้ลื่น วิ่งหนีกันล้มระเนระนาด จากนั้นใช้ท่อไม้ยิงลูกดอกอาบยาพิษ
มีคนเห็นเหตุการณ์แล้วแจ้งมายังศูนย์โกล์เด้นไทม์
คังกวอนจูฟังจากเสียงในที่เกิดเหตุและดูคลิปเหตุการณ์สด
เสียงคนร้ายเป็นเสียงผู้หญิงที่พูดดัดเป็นผู้ชาย และภาษาที่พูดเป็นภาษาอินโดนีเซีย โดยคนร้ายใส่หน้ากากเลียนแบบคนป่าที่ใช้ลูกดอกอาบยาพิษล่าสัตว์
คนร้ายเล็งเป้าไปทิศทางเดียวคือ ผอ.ศูนย์ เมื่อยิงเข้าเป้า คนร้ายก็หลบหนีทันที
ภายในศูนย์มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติพูดเกาหลีไม่คล่องชื่อ ทีน่า เป็นเมียของสายสืบกูกวางซู ที่เป็นตำรวจคนหนึ่งในทีม และกำลังท้องอยู่ด้วย
ทีมกู้ภัยไปถึงที่เกิดเหตุก็ปฐมพยาบาล ผอ.ศูนย์
ทีน่าบอกตำรวจว่า คนร้ายหนีไปทางสวนสาธารณะ โดคังอูเลยตามไปตามนั้น แต่พอไปถึงก็ไม่พบอะไร
คังกวอนจูได้ข้อมูลว่า คนในศูนย์มีคนอินโดนีเซียหนึ่งคน จบจากสถาบันอันดับหนึ่งของอินโดนีเซียด้วย โดคังอูเลยคิดว่า ถ้าฉลาดแบบนี้ น่าจะไปที่ที่มีคนเยอะๆมากกว่า
พอไปถึง คนร้ายขโมยสกู๊ตเตอร์ที่ถอดอยู่แถวนั้น ขับหนีไป โดคังอูและพวกวิ่งไล่ตาม โดยมีทางศูนย์คอยช่วยบอกทาง
สุดท้ายโดคังอูก็จับคนร้ายได้ แต่เขาบอกคังกวอนจูว่า คนน่าสงสัยน่าจะเป็น ทีน่า มากกว่า เพราะเขาเห็นในกระเป๋าทีน่ามียาน่าสงสัยอยู่
คังกวอนจูให้คนหาข้อมูลได้ความว่า เป็นยารักษาสิวที่คนท้องห้ามใช้เลยนึกถึงตอนที่ ทีน่าพูด เหมือนได้ยินคำว่า ตามไปฆ่า อะไรประมาณนี้ ก็เลยบอกโดคังอูว่าใช่ ทีน่า น่าสงสัยจริงๆ โดคังอูก็เลยต้องไปที่ศูนย์สตรีต่างชาติ
คังกวอนจูได้ข้อมูลมาอีกว่า ทีน่าเคยแต่งงานกับคนเกาหลีมาแล้วครั้งหนึ่ง
ทีน่าอยู่ในตึกไม่ออกมาข้างนอก สายสืบกูเลยเข้าไปตามทีน่า พอเข้าไปเห็นทีน่าค้นห้อง ผอ.อยู่ ถามไปซักพัก สายสืบกูสงสัยว่า ทีน่าพูดเกาหลีชัดตั้งแต่เมื่อไหร่
คังกวอนจูวิทยุมาบอกสายสืบกูว่า อย่าอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่ทันแล้ว ทีน่าใช้ของแข็งทุบเข้าที่ขมับสานสืบกูอย่างจัง
