วินเชนโซ่วางแผนไว้แต่แรกแล้วว่าจะไม่ฆ่าจางฮันซอก แต่จะกดดันให้เขาเผยตัวตนออกมาเอง โดยร่วมมือกับอัยการจองอินกุกที่ต้องการจะจับประธานบาเบลตัวจริงทั้งหกข้อหา ชเวมยองฮีแนะนำให้จางฮันซอกเก็บตัวสักระยะ เพราะอีกไม่นานอัยการจองอินกุกจะต้องออกหมายเรียกแน่ๆ จางฮันซอจึงออกตัวว่าจะไปแทนพี่ชาย

เมื่อวินเชนโซ่รู้ว่าบอสใหญ่ของบาเบลคือจางฮันซอก เขาจึงโทรไปที่เบอร์นั้น แต่จางจุนอูเปิดระบบสั่นไว้ วินเชนโซ่จึงไม่รู้ว่าที่แท้แล้วจางฮันซอกก็คือจางจุนอูนั่นเอง หลังจากนั้นวินเชนโซ่พานักฆ่าทั้งสามคนไปทรมานเพื่อคาดคั้นความจริงจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่พวกเขาเคยก่อ พวกเขายอมรับว่าทำตามคำสั่งของประธานจางฮันซอกซึ่งอยู่ในเกาหลีและโทรมาสั่งงานโดยใช้เครื่องแปลงเสียง

ฮันซอจุนไม่เคยเรียนรู้หรือสอนใครเรื่องการผูกเงื่อนเชือก บารึมเชื่ออย่างนั้นเพราะเงื่อนที่อยู่บนหัวหนูผูกไปทางขวา แต่เงื่อนที่ข้อมือเหยื่อรายล่าสุดผูกไปทางซ้าย ฉะนั้นฮันซอจุนไม่ใช่คนฆ่าลูกสาวของผู้กองพัคดูซอกแต่อาจมีผู้สมรู้ร่วมคิด

โกมูจียังไม่ได้คำตอบว่าหนูน้อยฮันกุกอยู่ที่ไหน เพราะหมอโยฮันสลบไปเสียก่อน บารึมและหมอโยฮันอาการสาหัสทั้งคู่และต้องได้รับการผ่าตัดทั้งคู่

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงค้นหาฮันกุกต่อไป โกมูจีได้เบาะแสว่าโยฮันไปที่ตึกร้างแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาไม่พบฮันกุก แต่เจอเศษเอกสารพันธุกรรมที่หมอโยฮันนำมาเผาทิ้ง

การใช้ดาบฆ่าคนครั้งแรก ทำให้ดัลรู้สึกผิด แม้กาจินจะปลอบใจว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะโกวอนพโยส่งคนเหล่านั้นมาฆ่าพวกเขา และดัลก็ได้ช่วยชีวิตนางและแม่เอาไว้ คุณนายซาปลอดภัยเพราะลูกธนูไม่โดนจุดสำคัญ

โกกอนรู้แล้วว่าแฮโมยงคือสายลับของชิลลา แต่เขาก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพ่อ โกวอนพโยสั่งให้โกกอนจับตาดูองค์หญิงให้ดี เพราะการไปอยู่กับดัลที่เผ่าซุนโน นางต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง โกวอนพโยคิดว่าเมื่อได้จังหวะที่ดี เขาก็จะถอนรากถอนโคนเผ่าซุนโนทิ้ง

การเสียชีวิตของครอบครัวเหยื่อเภสัชกรรมบาเบลทั้งสี่คนรวมทั้ง ผอ.กิลจงมุน เป็นฝีมือของบาเบลทั้งสิ้น ชายองเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ตำรวจไม่ยอมรับที่เธอจะขอให้มีการชันสูตรอีกครั้งและยืนยันว่าพวกเขาฆ่าตัวตายกันเอง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจรับสินบนจากสำนักงานอูซัง พวกเขาจึงต้องรีบปิดคดีโดยเร็ว วินเชนโซ่จึงคิดแก้แค้นบาเบลด้วยวิธีของเขาเองเพื่อชดใช้ให้เหยื่อผู้บริสุทธิ์เหล่านั้น

ชายองและวินเชนโซ่วางแผนการเพื่อหาประธานตัวจริงของบาเบล โดยใช้ชื่อเรียกว่า “บาโบ” โอกยองจาพาวินเชนโซ่ไปฝากเลี้ยงที่โบสถ์ในปี 1993 ซึ่งเธอเริ่มป่วยเป็นโรคมะเร็ง

เมื่อบงอีเห็นคลิปที่คนร้ายกำลังจะฆ่าบาทหลวงมูวอน เธอจึงรีบไปที่นั่น เพื่อช่วยบาทหลวงและต้องการแก้แค้นให้ยาย แต่ทว่าบาทหลวงถูกฆ่าไปแล้ว บงอีเผชิญหน้าและต่อสู้กับคนร้าย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงพอดี เธอจึงรอดชีวิตและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในบรรดากลุ่มคนที่มุงดูที่เกิดเหตุ บารึมได้กลิ่นมิ้นต์จากใครบางคน เมื่อมูจีเห็นศพบาทหลวงมูวอน เขาเสียใจและร้องไห้ราวกับคนเสียสติ หมอจึงต้องฉีดยาระงับประสาทให้เขาและ

ใกล้เวลาถ่ายทอดสดแล้ว แต่โกมูจีก็ยังหาคำตอบไม่ได้ บารึมจึงวางแผนให้อัดคลิปเด็กคนหนึ่งโดยให้สวมหน้ากากเหมือนกับหนูน้อยคิมฮันกุกที่ถูกลักพาตัวไป เพื่อเป็นการล่อคนร้ายให้แสดงตัวตนออกมาเมื่อรู้ว่าเป็นคลิปปลอม

คังจินมุกถูกควบคุมตัวไปโรงพัก สารวัตรจูวอนไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับนักข่าว ท่านรองฯฮันกีฮวานโทรบอก ผกก.จองชอลมุนให้จับตาดูการสอบปากคำคังจินมุกให้ดีและหาลู่ทางผ่านคำให้การเพื่อโอนคดีกลับมาที่โซล

โกวอนพโยสั่งสอนโกกอนว่า ถึงแม้จะฆ่าดัลหรือเผาหมู่บ้านหุบเขาผีทิ้ง ก็ไม่อาจครอบครององค์หญิงได้ แต่ให้รอจังหวะที่ดีและหาความชอบธรรมให้ได้เสียก่อน และอีกไม่นานโกกอนจะต้องไปอยู่ชายแดนแสนไกลตามคำสั่งของพ่อ