คังจินมุกนำอาหารไปให้โอจีฮวาที่สถานีมุนจู เพื่อเป็นการขอบคุณเธอ ระหว่างที่นั่งรอจีฮวา จินมุกนั่งนับจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดบนสถานีนั้น จีฮวาไม่ได้รับอาหารของจินมุกเพราะเกรงใจที่เธอยังไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเขาเลย จินมุกจึงนำไปให้เจ้าหน้าที่ที่สถานีย่อยมันยาง ผก.นัมซังแบจึงรับไว้ เมื่อกลับถึงบ้านจินมุกเขียนตัวเลข27บนปฏิทิน เท่ากับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เขานับได้ทั้งหมดวันนี้ และพึมพำกับตัวเองว่าทั้งหมดนั

หมอพิสูจน์แล้วว่านิ้วมือที่พบที่โบสถ์ในเรือนจำเป็นของชีกุก และเจ้าหน้าที่ยังพบศพของพัคจองโฮที่โรงงานเสื้อผ้าร้าง ซึ่งกลุ่มศาสนาเคยเป็นผู้ดูแล ศพนี้เสียชีวิตมาประมาณสิบวันแล้วและมีบางอย่างอยู่ในปากซึ่งยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันคืออะไร ระหว่างทางกลับบ้านและฝนกำลังตก บงอีไม่กล้าข้ามสะพาม เพราะยายของเขาไม่รับโทรศัพท์ จึงขอติดรถตำรวจไปด้วย ซึ่งมูจีอยู่ในรถคันนั้น เขาจำได้ว่าบงอีคือเด็กที่ไปด้อมๆมองอู่ที

หลังจากจูวอนให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงจำนวนเหยื่อที่หายสาบสูญและกลับไปถามดงชิกอีกครั้งนั้น จูวอนเอ่ยรายชื่อเหยื่อเกินมาหนึ่งคน จึงทำให้ดงชิกจับจุดได้ว่า ความลับของจูวอนก็คือเจ้าของโทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้งที่ชื่อว่าอีกึมฮวานั่นเอง จูวอนยังไม่ได้คำตอบว่าดงชิกกำลังปิดบังความผิดให้ใครกันแน่ เพราะเขาเอ่ยชื่อคนที่รู้จักทั้งหมด ขณะนั้นเองทั้งคู่ก็เห็นข่าวสดที่พ่อของเขาออกมาแถลงการณ์ และก้มหัวขอโทษประชาชนที่จ

โจมีจองคือศพหญิงสาวรายล่าสุดที่ถูกพบในสวนองุ่น ในที่เกิดเหตุมูจีเห็นข้อความที่ฆาตกรใช้เลือดเขียนถึงเขา นอกจากนั้นยังพบนาฬิกาข้อมือตกอยู่อีกหนึ่งเรือน ตำรวจคิดว่าน่าจะมีเหยื่อรายอื่นอีก จึงตั้งทีมพิเศษขึ้นมาเพื่อทำคดีนี้

โอจีอวาจับกุมอีดงชิกโดยไม่มีหมายจับและปิดข่าวไว้ แต่โอจีฮุนลูกน้องของดงชิกเป็นคนปล่อยข่าว พวกนักข่าวจึงไปรอทำข่าวกันอยู่ที่สถานีมุนจู ทำให้พวกเขารู้ว่าตำรวจกำลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะอีดงชิกใส่เครื่องแบบตำรวจขณะที่ถูกจับกุมตัว

หลังจากพบนิ้วมือของมินจอง ทุกคนในเมืองมันยางที่รู้จักเธอต่างก็โศกเศร้าเสียใจ ดงชิกรื้อเอกสารคดีทั้งหมดที่ติดบนผนังห้องใต้ดิน เพื่อนำไปคืนที่ห้องเก็บแฟ้มตามเดิม สารวัตรจูวอนแอบได้ยินพัคจองเจถามดงชิกว่าเป็นคนฆ่ามินจองหรือเปล่า

ทั้งสารวัตรจูวอนและอีดงชิกต่างก็สงสัยกันและกัน จึงต่างสืบหาประวัติของอีกฝ่าย ซากนิ้วมือที่สวมแหวนซึ่งดงชิกและสารวัตรจูวอนพบนั้น เป็นสถานที่เกิดเหตุเดียวกันกับคดีฆาตกรรมเมื่อยี่สิบปีก่อน ในตอนนั้นดงชิกถูกจับในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีของอียูยอนน้องสาวฝาแฝดของเขาเอง

อีดงชิกและอียูยอนเป็นพี่น้องฝาแฝด อาศัยอยู่ที่เมืองมันยาง
เมื่อ20ปีก่อน ยูยอนหายสาบสูญไปหลังจากได้รับข้อความของดงชิกให้ออกไปหา
เช้าวันต่อมาแม่ของเขาพบนิ้วทั้งสิบของยูยอนถูกตัดและวางเรียงอยู่หน้าบ้าน และมีคนพบศพบังจูซอนในทุ่งอ้อ เธอถูกฆาตกรรมและถูกมัดข้อเท้า

แม้จะผ่านไป20ปี แล้วก็ตาม อีดงชิกยังคงติดตามหาน้องสาว โดยปิดป้ายประกาศตามหาไว้ทั่วเมือง

โกกอนนำความเข้าทูลฝ่าบาทเรื่องที่องค์หญิงแฝงตัวอยู่ในกลุ่มเชลยสาว อนดัลและพุงแกพาทาราจินและทาราซานเข้าเมืองเพื่อสอบถามเรื่องซงฮวาดัง แต่ไม่มีใครรู้เลย โกกอนนำคนไปพังร้านของแฮโมยงและสอบทางเส้นทางที่กลุ่มเชลยสาวเดินทางไปโจวเหนือ เขาต่อว่าโมยงที่ขายผู้หญิงให้กับชิลลา แต่โมยงบอกว่าเงินส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งก็เป็นของโกวอนพโย อนดัลแวะไปที่ร้านของนาง จึงได้พบโกกอนที่นั่น และได้รู้ว่าองค์หญิงอยู่ในกลุ่มนั้

องค์หญิงพยองกังเข้าเฝ้าพระมเหสีจินและได้พบองค์ชายกอนมู แต่องค์หญิงจ้องหน้าองค์ชายราวกับรู้ว่าไม่ใช่สายเลือดของพระเจ้าพยองวอน เพราะพ่อที่แท้จริงนั้นคือโกวอนพโย องค์รัชทายาทโกวอนไม่ยอมพบหน้าองค์หญิง เพราะเรื่องที่สนมจินเคยบอกว่า องค์หญิงไม่ใช่พี่สาว และไม่ใช่สายเลือดของเสด็จพ่อ

ก่อนการพิจารณาคดี ฮันซึงฮยอกและชเวมยองฮีแอบพบผู้พิพากษารุ่นพี่ เพื่อให้บาเบลเป็นฝ่ายชนะคดี โดยรับปากว่าจะให้เงินตอบแทน แต่ทว่าการพิพากษาในวันนี้เป็นโมฆะและถูกเลื่อนไปในสัปดาห์หน้า ตามแผนการที่วินเชนโซ่และชายองวางเอาไว้เพื่อยื้อเวลา โดยความร่วมมือจากผู้เช่าทุกคนที่ไปร่วมฟังคำพิพากษาช่วยกันสร้างความอลหม่านในห้องพิจารณาคดี

หลังจากไฟไหม้คลังสินค้าเภสัชกรรมบาเบลแล้ว จางฮันซออยากแก้แค้นฝ่ายตรงข้าม แต่จางจุนอูขู่ฮันซอว่าเขาเป็นเพียงประธานหุ่นเชิดเท่านั้น ห้ามมีความคิดเห็นใดๆ เด็ดขาด และให้ปล่อยข่าวไปว่า สาเหตุไฟไหม้เกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้อง เรื่องนี้มีผลกระทบต่อหุ้นของบาเบล ฉะนั้นฮันซอจะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการและหาแผนรับมือให้ได้