หลังจากที่แชรยองตาย แฮซูเศร้าโศกเสียใจจนตัวเองล้มป่วย และหมางเมินต่อฝ่าบาท นางทูลว่าอยากจะออกไปจากวังนี้ แต่ฝ่าบาทรับสั่งว่าจะไม่มีวันปล่อยนางไปเด็ดขาด แฮซูให้ความช่วยเหลือครอบครัวของแชรยองตามที่นางได้สั่งเสียไว้ในจดหมาย
พระมเหสียอนฮวาตัดสินพระทัยที่จะละทิ้งครอบครัวตามที่ฝ่าบาททรงเสนอ เพราะหวังจะมีโอรสซึ่งจะเติบโตเป็นพระราชาแห่งโครยอในอนาคต
ในตอนแรกฝ่าบาทไม่สนพระทัยเรื่องแผลเป็นที่ข้อมือของแฮซู เพราะพระองค์ก็ทรงเป็นพระราชาที่มีแผลเป็นบนพระพักตร์เช่นกัน หลายๆ ตระกูลที่มีอำนาจกำลังรวมตัวกันเพื่อโค่นฝ่าบาท จึงมีการทูลเสนอให้อภิเษกกับองค์หญิงยอนฮวา แม้กระทั่งพระมเหสีฮวังโบ เอาสมุดของแฮซูมาให้อ่าน ซึ่งเป็นคำแปลกที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ฝ่าบาทก็ไม่สนพระทัยเรื่องเหล่านี้ จนกระทั่งชเวจีมงได้บอกแฮซูว่า ขอให้นางตัดใจกับการอภิเษกครั้งนี้และปล่อย
ซูโฮและซอจุนประสบอุบัติเหตุและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จูกยองตัดสินใจสารภาพความจริงกับซูจินถึงความสัมพันธ์ของเธอกับซูโฮ ซูจินเจ็บปวด แต่ก็บอกจูกยองว่าเธอไม่โกรธและเข้าใจดี
จูกยองไม่สามารถโทรติดต่อซูโฮได้ เธอจึงคิดว่าเขายังโกรธอยู่ จนกระทั่งได้รู้ข่าวจากพี่ฮีกยอง จูกยองจึงรีบไปที่โรงพยาบาล
องค์ชายสิบสี่ฝากข้อความถึงแฮซูว่า เขาหาทางช่วยนางให้ออกจากวังได้แล้ว อูฮีเป็นสายให้ฝ่าบาทและทูลรายงานว่า องค์ชายวังโซร่วมกับเหล่าขุนนางเพื่อยับยั้งการก่อสร้างวังใหม่ที่ซอกยอง อูฮีหวังเพียงข้อแลกเปลี่ยนที่ทรงสัญญาเรื่องปากท้องและอิสรภาพของชาวอูแพคเจ แต่ฝ่าบาทไม่ทรงรักษาสัญญาและขู่นางด้วยว่า ตอนนี้องค์ชายแพคอายังไม่รู้ว่านางคือสุนัขรับใช้ของฝ่าบาท
แม่ทัพพัคเพิ่งรู้ว่าทหารกำลังบุกไปที่ทามีวอนเพื่อจับองค์ชายสิบและชายาซุนด๊อก เขาจึงรีบไปที่นั่นทันทีเพื่อช่วยลูกสาว ในขณะที่องค์หญิงยอนฮวาบอกองค์สี่ว่า แฮซูซ่อนองค์ชายสิบไว้ที่ทามีวอน ฝ่าบาททรงยืนดูซูนด๊อกและองค์ชายสิบกำลังต่อสู้กับทหาร ซุนด๊อกเอาตัวเองเข้ากำบังเพื่อปกป้ององค์ชายสิบ นางจึงถูกฟันและสิ้นใจอยู่ตรงนั้น ขณะที่องค์ชายสิบกำลังเสียใจอยู่นั้น ฝ่าบาททรงยิงธนูไปที่องค์ชายสิบ องค์ชายสี่ที่
เพื่อเป็นการช่วยชีวิตแฮซู องค์ชายวังโซจึงต้องจำใจยอมรับว่าองค์ชายวังโยคือพระราชาองค์ใหม่ และองค์ชายวังค์โยก็ได้ครองบัลลังก์เป็นพระเจ้าจองจง
องค์ชายสี่พยายามจะพาแฮซูหนีไปจากวัง แต่ถูกองค์ชายเก้าขวางไว้ โดยอ้างคำสั่งพระราชาองค์ใหม่ หากแฮซูหายไปจากทามีวอนหรือออกนอกวัง พระองค์จะประกาศว่านางคือผู้ที่ลอบปลงพระชนม์พระราชาองค์ก่อน
คิมจวากึนโดนพระพันปีหลวงต่อว่าที่ไม่อาจขัดขวางงานเลี้ยงครั้งนี้ได้ เขาจึงทูลให้พระนางคอยจับตาดูสิ่งที่เขาเตรียมถวายฝ่าบาทในวันนี้
สองปีต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าฮเยจง แฮซูได้เลื่อนตำแหน่งเป็นซังกุง ประจำตำหนักทามีวอน องค์ชายวังโซกำลังสงสัยในพฤติกรรมขององค์ชายวังอุค ซึ่งแจ้งในที่ประชุมว่าฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้จัดกองทัพใหม่ โดยที่ฝ่าบาทไม่ทรงเข้าร่วมประชุมเพราะอาการประชวร
สนมอึยมอบบัญชีลับของตระกูลคิมให้พระพันปี เพื่อหวังให้พระนางโค่นพระมเหสีโซยง ในขณะที่พระมเหสีทรงสับสนที่เห็นฝ่าบาทในความฝัน ถึงแม้จะทรงคิดว่ามันเป็นฝันร้าย แต่ทว่าพระนางก็ทรงมีความสุขในความฝันนั้น จึงทรงคิดว่าอาจเป็นผลกระทบของอาการสภาวะผัก และการกลับไปกลับมาระหว่างสองโลก หมอหลวงจึงแนะนำว่าพระนางจะต้องยอมรับตัวตนที่แท้จริง จากนั้นทรงชมหมอหลวงที่จัดสมุนไพรอย่างดีสำหรับมาสก์พระพักตร์ให้พระพันปี และ
องค์ชายแพคอาเข้าไปรับคมดาบของอูฮีแทนฝ่าบาทและบอกให้นางรีบหนีไป ในขณะที่อาการประชวรของฝ่าบาททรงทรุดหนักจนหมดสติไป พระองค์ทรงรู้ตัวดีว่าเหลือเวลาอีกไม่มาก จึงรับสั่งให้ชเวจีมงและท่านแม่ทัพพัค ช่วยกันดูแลองค์รัชทายาทมูและองค์ชายสี่
องค์ชายสี่ยอมไปเมืองโฮ่วจิ้นในฐานะทูตตามรับสั่งของฝ่าบาท แต่ก็ทูลขอให้พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อแฮซู หลังจากนั้นฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ชเวจีมงกำจัดแฮซู เพราะไม่ต้องการให้นางพบกับองค์ชายอีก แต่ชเวจีมงบอกแฮซูให้ไปจากทามีวอน และไม่ต้องบอกลาหรือข้องแวะกับองค์ชายอีก