เมื่อปลอบใจซูโฮและคืนเสื้อให้เขาแล้ว จูกยองบอกว่าในคืนนั้นเธอไม่ได้มาที่ดาดฟ้าเพื่อฆ่าตัวตาย ดังนั้นซูโฮไม่ต้องต้องมาสงสารเธอ และบางครั้งการร้องไห้ออกมาบ้างก็ถือเป็นการชำระล้างจิตใจ ไม่ต้องเสแสร้งว่าตัวเองไม่เป็นอะไร

ซอจุนยังใช้แผนรุกต่อ และบอกจูกยองต่อหน้าเพื่อนๆ ว่า ต่อไปนี้เขาจะเชื่อฟังเธอ แต่จูกยองและเพื่อนของเธอต่างก็คิดว่านี่ไม่ใช่การจีบแต่เป็นการกลั่นแกล้งมากกว่า เมื่อจูกยองเห็นนักเรียนใหม่ฮันโกอุนโดนเพื่อนกลั่นแกล้งเพราะหน้าตาขี้เหร่ ทำให้เธอนึกถึงตัวเองในอดีต

พระมเหสีจำเหตุการณ์ในคืนนั้นได้ และรู้ว่าพระราชาชอลจองคือนักฆ่าในคืนนั้น และที่วนเวียนมาหาพระนางเพราะต้องการทดสอบว่าจำได้หรือเปล่า พระมเหสีจึงทรงคิดว่าจะต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ต่อไป เพื่อความอยู่รอด แต่เมื่อถึงทีเผลอพระราชาจึงแอบโรยผงเห็ดบินลงในถ้วยชาเพื่อหลอกถาม แต่ทว่าพระมเหสีทรงคิดว่าพระราชาทรงวางยาพิษในน้ำชา และต้องการฆ่าพระนางเพราะสนมฮวาจิน

เมื่อเห็นดาบจ่ออยู่ตรงหน้า พระมเหสีโซยงทรงคิดว่าตนเองถูกโจรปล้น จึงได้มอบเงินทั้งหมดที่มี และบอกว่าตนเองคือเชฟประจำกองทัพ พระราชาซอลจงแปลกใจว่านางพูดจาแปลกๆ แต่แววตามีความจริงใจ

ในคืนเข้าหอ พระราชาชอลจองขอให้พระมเหสีนอนห่างๆ โดยอ้างว่าพระองค์ตื่นบรรทมง่าย บงฮวานจึงผูกปมเสื้อไว้แน่นๆ เพื่อป้องกันพระราชาลวนลาม จากนั้นก็นอนบนพื้นข้างๆ จนหลับไป และไม่รู้ว่าพระราชาแอบออกไปข้างนอกในตอนดึกเพื่อค้นหาบัญชีทุจริตของฝ่ายตรงข้าม

จางบงฮวาน(ชเวจินฮยอก)เชฟหนุ่มวัย33ปี ที่ประสบความสำเร็จทำงานในทำเนียบยุคปัจจุบัน บูซึงมินอิจฉาที่บงฮวานโด่งดังกว่า จึงกลั่นแกล้ง ทำให้เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าทุจริตค่าวัตถุดิบ ขณะที่กำลังหนีตำรวจ บงฮวานตกลงไปในสระน้ำจนหัวกระแทกพื้นสระ ก่อนที่จะหมดสติไป บงฮวานเห็นผู้หญิงคนหนึ่งดำน้ำมาช่วยชีวิตเขาด้วยการจุมพิต

ซอจุนชกหน้าซูโฮในโรงอาหาร แต่ทุกคนคิดว่าพวกเขาทะเลาะกันเพราะแย่งกันจีบจูกยอง ซูโฮพยายามอธิบายเรื่องเซยอนให้ซอจุนเข้าใจ แต่เขาไม่ยอมรับฟัง ซูโฮไปที่ร้านหนังสือ จูกยองผ่านมาเห็นจึงเข้าไปทักทายและปลอบใจ หากยามใดที่เขาต้องการคุยกับใครสักคน เธอยินดีที่จะรับฟัง จากนั้นจูกยองจึงเล่าเรื่องวิธีคืนดีกับน้องชายเวลาทะเลาะกัน แม่ของพวกเขาจะให้ตัดเล็บเท้าให้กันและกันและบอกรักไปพร้อมกันด้วย ซูโฮได้ฟังดั

ซูโฮพาจูกยองไปที่ห้องน้ำหญิง และยืนรอเธอที่หน้าห้องน้ำ ซอจุนเดินเข้ามาทักและคิดว่าซูโฮช่วยจูกยองเพราะอยากทำตัวเด่น แต่ซูโฮไม่อยากทะเลาะกับเขา จึงเดินไปจากที่นั่น จูกยองล้างหน้าและแต่งหน้าใหม่และเมื่อออกจากห้องน้ำ เธอนึกว่าคนที่ยืนรอคือซูโฮ แต่เป็นซอจุนที่มาบอกให้เธอนำหมวกกันน็อกมาคืนเขาในวันพรุ่งนี้

ซูโฮจำได้ว่าจูกยองคือผู้หญิงที่เขาเจอบนดาดฟ้า ในขณะที่จูกยองหวาดระแวงว่าเขารู้ความลับเรื่องความขี้เหร่ของเธอ ทั้งคู่ตกลงทำสัญญากันว่าจะเก็บเป็นความลับ โดยที่พวกเขาเข้าใจกันคนละอย่าง ซูโฮจะเก็บความลับเรื่องที่เธอเคยคิดฆ่าตัวตาย แต่จูกยองคิดว่าเขาจะเก็บความลับเรื่องหน้าสดของเธอ จูกยองรับปากว่าจะให้เขายืม”หน้ากากต้องสาป”หนังสือการ์ตูนเล่มโปรดที่เขาตามหามานาน ซูโฮคิดว่าจูกยองชื่อจูบัลตามที่เจ

อิมจูกยอง(มุนกายอง)ขี้เหร่มาตั้งแต่เด็กและไม่มีใครชอบ เธอจึงรู้สึกมีปมด้อยและโดนเพื่อนๆ กลั่นแกล้งอยู่เสมอ จูกยองแอบชอบวังฮยอนบิน พนักงานประจำโรงอาหารที่โรงเรียน และคิดไปเองว่าเขาก็ชอบเธอเช่นกัน เมื่อเธอสารภาพความรู้สึกที่มีต่อเขา แต่ถูกเขาปฏิเสธและยังตำหนิหน้าตาของเธออีกด้วย

นักข่าวฮวังซังฮยอนเป็นคนนิสัยไม่ดีและชอบลอบกัดสตาร์ทอัพ หากไม่ได้หุ้นตามที่ขอ เขาก็จะเขียนข่าวในด้านลบ เมื่อรู้ว่าเขาไปหาดัลมี จีพยองจึงรีบไปหาเธอทันที เพราะเชื่อว่านักข่าวคนนี้จะลอบกัดเรื่องแรนซัมแวร์ แต่เมื่อไปถึงและได้พบอินแจ ขณะที่ดัลมีและทีมของเธอกำลังคุยกับนักข่าวในห้องประชุม อินแจรู้ดีว่านักข่าวคนนี้เป็นคนอย่างไร จึงได้บอกดัลมีให้เตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า เพราะโดซานค้นพบว่าคนที่ปล่อยแรนซัม

“ทาร์ซาน” ผ่านการทดสอบและได้รับใบอนุญาติ เมื่ออินแจรู้ว่ามอร์นิ่งกรุ๊ปจะเข้าประมูลเป็นหุ้นส่วนกับดีคิวกรุ๊ป ที่กำลังมองหาบริษัทรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่สมาร์ทซิตี้ เธอจึงคิดจะเข้าชิงการประมูลด้วยเช่นกัน เพราะว่ามีโอกาสที่จะชนะ แต่ดัลมีไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าพี่สาวต้องการเอาชนะพ่อเลี้ยงของเธอ เธอจึงให้เหตุผลว่าตอนนี้เธอรอบคอบขึ้นกว่าเดิม และไม่อยากเสียเพื่อนร่วมทีมไปอีกเหมือนเมื่อสามปีก่อน