โดวอนนั่งร้องไห้กอดศพซอคยองอยู่ที่ข้างทางรถไฟ และนึกถึงเรื่องราวเมื่อสิบสองปีก่อน หลังจากที่พ่อของเขาและซอคยองตาย และรับเธอมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของโอมีซุก โดวอนรับปากว่าเขาจะดูแลปกป้องเธอเอง

เมื่อ โอมีซุก อีจองมิน และลูกทีมไปถึงที่หน้าห้องดับจิต โดวอนขอให้อีจองมินปลุกเขา เพราะขณะนั้นโดวอนมีสายตาพล่ามัวและเห็นภาพซ้อน

มุนยองชวนคังแทไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเซเรนเกตี ประเทศแอฟริกา แต่ว่าคังแทไม่มีพาสปอร์ต เขาจึงชวนมุนยองไปเกาะเซจูแบบไปเช้าเย็นกลับ แต่มุนยองต้องการค้างหนึ่งคืน คังแทจึงบอกว่าหากค้างคืนก็ต้องพาพี่ซังแทไปด้วย ทำให้มุนยองไม่พอใจจนเหยียบคันเร่งเร็วขึ้น และไปหยุดที่โขดหินริมทะเล และทิ้งคังแทไว้ที่นั่น

ยอนจูเจอแซตบยอลที่บ้านของแดฮยอน อีกทั้งคุณแม่ยังบอกว่าเอ็นดูแซตบยอลเหมือนลูกสาวเลยให้มาอยู่ที่บ้าน ยิ่งทำให้ยอนจูเข้าใจแดฮยอนผิดไปอีก แดฮยอนพยายามอธิบายแต่ยอนจูก็ไม่ฟังและขอตัวกลับบ้านไป

เมื่อกลับไปถึงบ้าน ผอ.โจรออยู่ที่บ้านของยอนจู
แต่ยอนจูบอกว่าเธอปวดหัวและเหนื่อยมากจึงขอตัวขึ้นห้อง

แดฮยอนส่งข้อความไปง้อยอนจู แต่เธอก็ไม่ยอมตอบกลับและไม่ยอมรับสายแดฮยอน

โดชางและจีฮยอกนำรูปจากโทรศัพท์ไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติอาชญากร และรู้แล้วว่าบุคคลในภาพก็คือ โจซองแด เคยติดคุกสี่ปีข้อหาลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย

จีฮยอกต้องการให้อีอึนฮเยแอดมิทที่ รพ.เพื่อให้หมอตรวจโดยละเอียด แม้ว่าหมอจะคัดค้านว่าเป็นแค่อาการลมชักและไม่จำเป็นต้องแอดมิท จีฮยอกสั่งให้ตำรวจเฝ้าหน้าห้องของเธอในฐานะพยาน อีอึนฮเยไม่ให้ความร่วมมือกับจีฮยอกที่เขาต้องการจับพัคกอนโฮเข้าคุก จีฮยอกจึงขู่ว่าหลังจากออกจาก รพ.เขาจะจับเธอในข้อหาลักทรัพย์
 

เมื่อซองอุคเดินลากพลั่วเข้ามา และเห็นว่ากระเป๋าที่ซ่อนศพถูกเปิดออก ทำให้เขาระแวงว่ามีคนอยู่ในโกดังแห่งนี้ ซอคยองซึ่งแอบดูอยู่ ได้พยายามโทรหาโดวอนที่เพิ่งกระโดดออกมาจากรางรถไฟ เขายังมีอาการมึนงงเพราะบาดเจ็บที่ศีรษะและทำโทรศัพท์หล่นไว้ในราง เมื่อคว้าโทรศัพท์ได้ เขาจึงโทรกลับหาซอคยอง แม้จะเปิดระบบสั่นไว้ แต่ในความเงียบนั้น ทำให้ซองอุคได้ยินเสียงเรียกเข้า แต่ซอคยองไม่รับสาย แสงจากโทรศัพท์ของซอคยองท

คังแทเพิ่งเข้าใจว่า สาเหตุที่มุนยองตัดผม เพราะต้องการอิสระและไม่ต้องการเชื่อฟังแม่อีกต่อไปแล้ว เขาลูบผมเธอชมว่าเก่งและเขาภูมิใจในตัวเธอมาก มุนยองชวนคังแทไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็ได้ เหมือนเจ้าหมาน้อยในฤดูใบไม้ผลิ

ย้อนไป 12 ปีก่อน (8 เม.ย. 2008)
ซอแจยอลพ่อของโดวอน(ยุนชียุน)
และ ฮันคยูแทพ่อของ ซอคยอง(คยองซูจิน)เสียชีวิตวันเดียวกัน

ซอคยองพบศพของพ่อในเวลา 21.35 น.
และผลชันสูตรศพพบว่าเขาเสียชีวิตโดยถูกฆาตกรใช้สายสร้อยรัดคอและตีหัวซ้ำ

คุณแม่ของแดฮยอนพาแซตบยอลมาอยู่ที่บ้านด้วย คุณแม่จึงสั่งแดฮยอนว่าให้นอนข้างที่ร้านไปก่อน

คังแทนั่งเฝ้ามุนยองจนหลับไปจนกระทั่งเช้า
เมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นมุนยองนั่งมองเขาอยู่ คังแทจึงบอกว่าเมื่อคืนเธอมีไข้นิดหน่อย
ก่อนจะขอตัวออกไปส่งพี่ซังแท และจะซื้อยามาให้เธอตอนขากลับ..
คังแทไปส่งพี่ซังแทและบอกว่าวันนี้เขาจะโดดงาน


แซตบยอลคิดถึงคำพูดของยอนจูที่บอกว่าเธอทำให้ทั้งคู่ต้องทะเลาะกัน
แซตบยอลจึงตัดสินใจที่จะลาออกจากร้าน..

แซตบยอลโดนนายหน้าห้องเช่าหลอกและตอนนี้ห้องของเธอก็โดนยึด
อีกทั้งน้องสาวยังต่อว่าที่โดนหลอกจนไม่มีที่ซุกหัวนอนต้องไปเช่าโรงแรมเก่าๆนอน

แซตบยอลไปทำงานพาร์ตไทม์เชียร์ของตามร้านอาหาร

ในคืนฝนตกหนักมีชายคนหนึ่งนำศพของเด็กนักเรียนหญิงไปโยนทิ้งแม่น้ำ และเขาได้ทำนาฬิกาข้อมือหล่นไว้บริเวณที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่มีใครพบ คังโดชาง(ซนฮยอนจู)นำกำลังไปจับกุมอีแดชอล ต่อหน้าอีอึนฮเยลูกสาวของเขาที่เพิ่งกลับจากโรงเรียน เมื่อศาลอ่านคำตัดสินให้ประหารชีวิต อีแดชอลพึมพำกับตัวเองว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมจึงเป็นเขา และไม่มีใครเชื่อเขาเลย..

ห้าปีต่อมา