
แปดปีก่อน...
หัวหน้าขันทีวางแผนล่อองค์ชายอีซอลให้มาพบจนเกือบถูกสังหาร แต่ไอ้โม่งได้มาช่วยพระองค์ไว้และปะทะกับจางแทฮวาที่พ่ายแพ้ และมีแผลเป็นบนใบหน้า จางแทฮวาสูญเสียจางฮยอนลูกชายคนเดียวในการปะทะครั้งนี้ด้วย

องค์ชายใหญ่อีซอลถูกปลดขณะยังทรงพระเยาว์และถูกไล่ล่า ทรงเสด็จหนีออกจากวังไปหลบซ่อนที่เรือนของดันโอซึ่งกำลังไว้ทุกข์ให้กับพ่อของนาง ความมีน้ำใจของดันโอที่แอบช่วยเหลือพระองค์ ทำให้องค์ชายทรงซาบซึ้งและรับปากว่าจะบอกชื่อของพระองค์หากได้พบกับนางอีกครั้ง
สิบสามปีต่อมา..

สาวกอีจองจูมอบกรมธรรม์ชีวิตให้กับลัทธิซุนแบคก่อนตาย แม้ครอบครัวของเขาต้องการเอาเรื่องอ๊กจูมันแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

อนฮาจุนแฝงตัวเป็นคนขับแท็กซี่บริษัทขนส่งสายรุ้ง เขาต้องการแก้แค้นคิมโดกีและทีมสายรุ้งที่ทำลายองค์กรของเขาจนราบคาบและเสียผลประโยชน์มหาศาล ในหลายเคสที่ผ่านมา ทั้งแก๊งอาชญากรรมโคทาราที่ประเทศเวียดนาม และธุรกิจอสังหาเขาก็อยู่เบื้องหลัง อนฮาจุนไปหาโปรคังหรือคังพิลซึงที่กลายเป็นคนจรจัดไร้บ้าน ต่อมาโปรคังถูกพบเป็นศพที่เนินเขาในป่าซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าฆ่าตัวตาย แต่โดกีคิดว่าเป็นการจัดฉากจากใครบางคนใกล้

ฮาโดยองรู้ความจริงทั้งหมด และถามพัคยอนจินภรรยาของตนเอง แต่เธอไม่ยอมรับว่าเคยกลั่นแกล้งดงอึนเจียนตาย และอ้างว่าพวกเธอไม่ถูกกัน ศพของยุนโซฮีถูกย้ายไปเก็บไว้ที่ห้องแช่แข็งตามคำสั่งของอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลซึ่งเป็นพ่อที่ล่วงลับไปแล้วของยอจอง

โปรคังจับได้ว่าโดกีและโกอึนไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ โดกียอมรับผิดและหาเหตุผลที่ทำให้โปรคังเชื่อว่าเขาจนตรอกจริงๆ จนทำให้โปรคังยอมช่วยหาบ้านให้ ต่อมาโดกีได้รู้ว่าโปรคังจะใช้วิธีพรากเด็กจากแม่เลี้ยงเดี่ยวไปให้สามีภรรยาคู่อื่นแจ้งเกิดเพื่อให้การซื้อขายบ้านง่ายขึ้นและหลังจากนั้นเขาก็จะรับเด็กกลับไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหารายชื่อเด็กผ่านทางองค์กรรับเลี้ยง

แฮอีบอกกับทุกคนว่าจะไปอยู่กับแม่ของเธอที่ประเทศญี่ปุ่นให้เร็วที่สุด แม้ว่าทุกคนจะตกใจแต่ก็ไม่อาจทัดทานเธอได้ ซูอาได้ยินพ่อกับแม่ทะเลาะกันและเสแสร้งเล่นละครเพื่อไม่ให้กระทบกับการสอบของเธอ ชียอลรู้ดีว่าแฮงซอนเครียดเรื่องแฮอีและบ้านคงจะเงียบเหงาลงไปบ้าง เขาจึงอยากให้เธอไปเรียนเสริมเป็นงานอดิเรก เธอจึงบอกว่าตั้งใจจะไปเรียนอยู่แล้วเพื่อสอบใบอนุญาตเป็นผู้ฝึกกีฬาหลังจากที่แฮอีสอบเข้ามหาวิทยาลัย

นัมแฮงจา(แม่ของแฮอี) ที่พยายามทำตัวเป็นแม่และดูแลแฮอีที่โรงพยาบาล แต่สิ่งที่เธอทำไม่ได้มาจากความจริงใจและจู้จิกจุกจิกตลอดเวลา แฮงซอนต้องปล่อยไปตามน้ำเพราะเห็นว่าเธอเป็นพี่คนโตและแม่ของแฮอี

โดกีและทีมสายรุ้งติดตั้งระเบิดเวลาไว้ที่เหมืองข้อมูลและขังประธานพัคยังจินไว้ตามคำสั่งของผอ.จาง ประธานแบคซองมีช่วยนำผอ.จางส่งโรงพยาบาลหลังจากถูกโจโดชอลแทง จากนั้นเธอก็จับโจโดชอลไป รองหัวหน้าอัยการโจจินอูพบบัตรพนักงานของคิมโดกีตกอยู่ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านพักตากอากาศของประธานพัค คิมโดกีมั่นใจว่าโจโดชอลเป็นคนทำร้ายผอ.จาง ถึงแม้ว่าผอ.จางไม่บอกความจริงก็ตาม เขาไปตามหาโจโดชอลที่ห้องใต้ดินของสำน

ฮาจุนย้ายมาอยู่ที่ห้องเช่าชั้นล่างตึกเดียวกับโดกี เขาแอบเข้าไปที่ห้องเก็บของที่อู่รถอีกครั้ง แต่ไม่สามารถใช้ลิฟต์ลงไปที่ห้องลับใต้ดินได้ เพราะชเวคยองกูและพัคจินออนได้ปิดช่องลิฟต์ไว้แล้วตามคำสั่งของผอ.จาง

ก่อนที่แฮอีจะหายตัวไปในคืนนั้น เธอพบหัวหน้าจีที่หน้าบ้านและกำลังเล็งปืนลูกเหล็กไปที่แฮงซอน แฮอีตกใจและวิ่งหนี แต่ทว่าเธอถูกหัวหน้าจีลักพาตัวไปขังไว้ที่ห้องของเขา เมื่อเธอตื่นมาจึงใช้ปากกาบนโต๊ะตัดเชือกที่มัดไว้และเห็นรูปภาพของชียอลกับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องติดอยู่เต็มผนังห้อง เธอจึงวิ่งหนีออกมาและโดนรถชนจนหมดสติ หัวหน้าจีวิ่งตามมาและใช้โทรศัพท์ของเธอส่งข้อความสั่งเสียถึงแฮงซอนก่อนที่จะโยนโทรศัพท

หัวหน้าจีกำลังเล็งปืนยิงลูกเหล็กไปที่แฮงซอนขณะที่เธอยืนเขียนกระดานอยู่หน้าร้าน แต่ชียอลขับรถแวะมาหาเธอพอดี หัวหน้าจีจึงหลบอยู่ในรถและแอบดูพวกเขา ฮีแจให้การต่อศาลว่าตนเองไม่ได้ฆ่าครูจี โดยปกติแล้วเขาจะออกไปให้อาหารแมวจรจัดบริเวณนั้นเป็นประจำ แต่พวกมันค่อยๆ ตายไปทีละตัวเพราะถูกยิงด้วยกระสุนเหล็ก เขาจึงเทียวไปเทียวมาเพื่อจะตามหาคนร้าย จนกระทั่งในคืนนั้นเขาเห็นชายต้องสงสัยจึงเดินตามไปและเห็นครูจีถู