คิมยองจู ห้อง 202 เป็นเจ้าของลำโพงเชคโบนและโรคแพ้แมว เธอเคยร้องเรียนที่ป้าสปริงให้อาหารแมวจรจัดอยู่เป็นประจำจนกระทั่งมันถูกฆ่าตาย คิมยองจูมีปัญหากับสามีและแกล้งเปิดลำโพงเสียงดัง เพื่อรบกวนการอ่านหนังสือของลูกชายพัคยงซูที่กำลังจะสอบ โดยอ้างว่าเขาเป็นเด็กที่ไม่มีมารยาท แต่เธอไม่เกี่ยวข้องกับการตายของป้าสปริง 

เกิดเหตุฆาตกรรมป้าซุนบก (ฉายาป้าสปริง) ที่อยู่ข้างบ้านของมยองพิล โดยไม่มีคราบเลือดในที่เกิดเหตุหรือร่องรอยของคนร้าย ไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนยอมให้การเป็นพยาน เพราะป้าสปริงมีนิสัยโวยวายและชอบวิวาทกับคนอื่นอยู่เสมอ

อูซัมซุนเจ้าหน้าที่หญิงคนใหม่ซึ่งมาทำงานแทนอันนา คังโดฮาลาออกจากหน่วยอีโอดีและมารับตำแหน่งหัวหน้าแผนกนิติวิศวกรรม ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติตามคำชักชวนของหมอยุน

โดฮาพาซลฮีไปกินอาหารเพื่อเป็นการขอบคุณที่เธอทำให้เขาไม่ต้องใส่หน้ากากอีกต่อไป ความรู้สึกและความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มมีมากขึ้น ในคืนนั้นซลฮีเมาและเสื้อผ้าของเธอเปื้อนซอสอาหาร โดฮาพาเธอไปส่งที่ห้องและช่วยถอดเสื้อคลุมให้เธอ ซลฮีที่สลึมสลือคิดว่าโดฮาจะทำมิดีมิร้าย เธอจึงตบหน้าเขาก่อนที่จะหลับไป 

โดฮาละเมอว่าไม่ได้ฆ่าใครเพราะฝันถึงตอนที่ถูกสอบสวนคดีชเวออมจี ซลฮีคิดว่าเขาคงกังวลเรื่องชีอนมากเกินไปจนเก็บไปฝันและเป็นครั้งแรกที่เขาพูดโกหก เพราะเขาช่วยชีอนจนปลอดภัยแล้วและโทรให้ผู้จัดการส่วนตัวของเธอมารับ ในคืนนั้นโดฮาเป็นไข้สูงและหมดสติไป ซลฮีนำยาไปให้เขาที่ห้องและนอนเป็นเพื่อนเขาทั้งคืน โดฮาตื่นขึ้นมาและแปลกใจที่เธอนอนค้างคืนที่ห้องของเขา เขาจึงขอร้องไม่ให้เธอสนใจเขาอีกและขอให้คิดว่าเขาไม่ม

ยังซังมันใช้ค้อนฟาดซงซอลจนหมดสติและมัดเธอไว้ในลิฟต์ของตึกเน็กซ์ออฟฟิศเทลซึ่งมีตัวจุดระเบิดแรงสูงอยู่ในนั้น เขายึดโทรศัพท์และบัตรประจำตัวของเธอไว้ ก่อนที่จะโทรนัดพบกับหัวหน้าด๊กโกซุนอดีตภรรยาของตัวเองที่ชั้นดาดฟ้า 

ร่างที่พบในที่เกิดเหตุคือศพของบงโดจิน ซงซอลอยู่ที่โรงพยาบาลและได้พบกับโดจินในฝัน เขาสวมแหวนวงนั้นให้กับเธอและบอกว่า ช่วงหลังเขากลัวการเข้าไปผจญกองเพลิงเพราะกลัวว่าจะไม่ได้กลับออกมาพบเธออีก ซงซอลรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของโดจินจนน้ำตาไหลออกมาทั้งที่ยังไม่ได้สติ 

ซงซอลติดอยู่ใต้ซากตึกที่ถล่มและวิทยุสื่อสารชำรุด เธอพยายามช่วยเหลือพนักงานส่งอาหารชเวดูจุนที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ตรงนั้น หัวหน้าพัคโฮยอนนำทีมกำลังเสริมมาช่วยโดยการลงไปติดตั้งเซนเซอร์จับเสียงเพื่อหาผู้รอดชีวิต และได้ยินเสียงของชเวดูจุนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่ซงซอลทำแผลให้ 

จินโฮแก (หมาจินโด) กำลังตามหาตัวคนร้ายโจอิลจุนเพราะคิดว่าเป็นมือวางเพลิงต่อเนื่อง เขาจึงไปที่เรือนจำเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากนักโทษฮายองดู (กระรอกไฟย่านบงโอ) อาชญากรวางเพลิงต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุด เพราะต้องการรู้เหตุผลและแรงจูงใจของคนร้าย 

โดฮาแปลกใจที่ซลฮีรู้ว่าคนเหล่านั้นเป็นนักข่าว แต่เธออ้างว่าพวกเขาน่าจะเป็นเจ้าหนี้ของเขาและพาเขาไปหลบที่ห้องของเธอ ซลฮีชวนโดฮาพูดคุยสารพัดเรื่องเพื่อจับโกหก แต่เขาพูดความจริงทุกเรื่องแม้กระทั่งชื่อคิมซึงจูที่เป็นชื่อของเขาเอง ซลฮีรู้ว่าเขาไม่ได้พูดโกหกและคิดว่าพลังเทพในตัวเธอใช้ไม่ได้ผลกับเขา 

โดฮาตกใจและไม่รู้เหตุผลที่ซลฮีถอดแมสก์ของเขา หลังจากนั้นเขาจึงไปพักที่อื่นเพื่อหลบหน้าเธอ ซลฮีหาข้อมูลเกี่ยวกับโดฮาและรู้ว่าเขาคือนักแต่งเพลงที่มีค่าลิขสิทธิ์สูงสุดในสังกัดเจเอนเตอร์เทนเมนต์ เธอจึงรู้สึกแย่ที่เคยเข้าใจว่าเขาหลบหน้าเจ้าหนี้ 

สายสืบอีคังมิน อดีตคนรักของซลฮีย้ายมาประจำที่สถานียอนซอ ครั้งหนึ่งเขาเคยขอซลฮีแต่งงานแต่เธอขอเลิกกับเขาเพราะจับได้ว่าเขาโกหก

ซารังคิดว่าตนเองจะลาออกจากโรงแรมคิงเพื่อทำงานที่ตนเองรักจริงๆ ตามคำแนะนำของคุณย่า กูวอนยอมรับฟังและไม่ขัดความต้องการของเธอ เขาขอให้เธอตั้งใจทำงานนั้นอย่างมุ่งมั่น แต่หากมีอุปสรรคใดๆ เขาก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ กูวอนตัดสินใจเลื่อนการขอแต่งงานไปก่อนเพื่อให้เวลาซารัง

ฮันมีโซ (แม่ของกูวอน) เคยโดนบีบบังคับจากพ่อของสามี (ท่านประธานกู) และโดนเนรเทศเช่นเดียวกับซารัง ในตอนนั้นเธอเป็นหัวหน้าสหภาพแรงงานซึ่งทำให้พ่อสามีไม่พอใจ ท่านประธานอ้างว่าตนเองไม่มีทางเลือกเพราะเห็นแก่บริษัท ฮันมีโซยอมจากไปและอยู่อย่างไร้ตัวตน แต่เธอกลับมาคราวนี้เพื่อปกป้องกูวอนและจะไม่ยอมอยู่เฉย หากเขาถูกกดดันจากท่านประธานเพื่อให้เห็นแก่บริษัทและวงศ์ตระกูลเหมือนกับในอดีต